เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สูงเนิน ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านโป่งทะเล หมู่ 6 ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างชายนอนเสียชีวิตจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 30 ปี สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงทั่วร่างกาย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์สีดำ 1 คัน
ขณะเดียวกัน ผู้ก่อเหตุ คือ นายแสงเพชร และนายวัชรพงษ์ ก็ยืนรอให้การมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมของกลางพบเป็นมีดข้อยาว 6 นิ้ว และปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ย เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ไปสอบปากคำที่ สภ.สูงเนิน
จากการสอบถาม นายอนุพล อายุ 45 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นตนได้ขับรถผ่านหน้าบ้านหลังที่เกิดเหตุ ตนได้สังเกตเห็นคนนอนจมกองเลือดอยู่พร้อมรถจยย. ตนจึงได้วนไปดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว พร้อมกับมีชาย 2 คนยืนดูอยู่ หลังจากนั้น ก็ได้มีแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว ส่วนชนวนเหตุตนทราบมาว่านายเกียรติศักดิ์ ผู้เสียชีวิต มักจะเมาสุราแล้วไปตะโกนด่าบ้านของผู้ก่อเหตุ เป็นประจำ ซึ่งเห็นว่ามีปัญหากันมาตั้งนานแล้ว เห็นว่าเป็นเครือญาติกันด้วย แต่มาวันนี้ เห็นว่าผู้เสียชีวิตจะเข้ามาทำร้ายตา ซึ่งเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุ ทางผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกชายและหลานก็ได้เข้ามาห้าม และบรรดาลโทสะใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อไปสอบถามรายละเอียดกับทางฝั่งแม่และญาติผู้ก่อเหตุ แต่ไม่มีใครให้ข้อมูลและสัมภาษณ์แต่อย่างใด ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปบ้านผู้เสียชีวิต ซึ่งบ้านอยู่ติดกันจึงได้สอบถามไปยัง นางสมหมาย อายุ 58 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งก็ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังด้วยความเศร้าโศก
โดยบอกว่า ตนไม่คิดว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เนื่องจาก ลูกชาย และผู้ก่อเหตุทั้งสองเป็นญาติกัน และมีบ้านอยู่ติดกัน ซึ่งพ่อของผู้ก่อเหตุ เป็นน้องชายของตนแท้ ๆ ก่อนเกิดเหตุ ตนทราบว่า ลูกชายของตนได้เข้าไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อไปพูดคุยกับคนก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้น ผู้ก่อเหตุทั้งสอง ซึ่งเป็นน้ากับหลานได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกชายของตนนอนแน่นิ่ง จมกองเลือด อยู่ที่พื้นทางหน้าบ้าน ซึ่งในขณะนั้น มีคนอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุตั้งหลายคน แต่ทำไมไม่มีคนห้ามปราม หรือช่วยเหลือลูกชายตนที่ถูกยิง และไม่มีใครมาบอกตนเลยว่า ลูกถูกยิง ซึ่งในขณะนั้น ตนเองก็อยู่ภายในบ้าน
นางสมหมาย กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากลูกชายของตนเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเลี้ยงตน เพราะสามีของตนนั้น ก็เสียชีวิตไปตั้งหลายปีแล้ว ตนอยู่กับลูกชายด้วยกัน 3 คน ที่บ้านลูกชายอีกคน ซึ่งเป็นคนโตก็ป่วยด้วยโรคประจำตัว จึงมีแต่ผู้เสียชีวิตที่ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ในส่วนสาเหตุหลัก ๆ ตนก็ทราบเพียงแต่ว่า ลูกชายกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มีเรื่องทะเลาะกันมานานแล้ว ตนก็พยายามจะห้ามปราม และบอกสอนว่า อย่ามีเรื่องกัน เพราะมีแต่พี่น้องกันทั้งนั้น ในส่วนของคดี ตนก็อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ตามพยานและหลักฐาน
ส่วนทางด้านคดีทีมข่าว ได้ติดต่อสอบถามไปทางโทรศัพท์ พ.ต.อ.อิษฏ์ บุญญะฤทธิ์ ผกก.สภ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อน เนื่องจากการสอบสวนพยานบุคคลคนในที่เกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุเห็นชัดเจน ว่าผู้ต้องหาทั้งสองคน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชายและหลาน ที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เป็นคนลงมือผู้ก่อเหตุ และจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคน ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนสาเหตุหลัก ๆ นั้นจากการสอบสวนพยานบุคคลก็ทราบว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มักมีเรื่องทะเลาะกัน บ่อยครั้ง นอกจากนี้ ทางตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจหาสารเสพติด ในร่างกาย เบื้องต้นไม่พบว่ามีสารเสพติดทั้งสองคน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา รายงาน