ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้นอกระบบ ทวงหนี้โหด หนึ่งในนั้นพบเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.4 บก.ป. เข้าตรวจค้นและจับกุม 2 จุด หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่าทั้ง 2 จุดมีผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบและคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อาศัยอยู่ จุดที่ 1 ร่วมกันจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี โดยกล่าวหาว่า 1.ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พ.ศ.2515มาตรา 4 2. เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 3. ใช้บัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มของผู้อื่นเพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 4. ทิ้งหรือแจกใบปลิว/นามบัตรในที่สาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 5. มีไว้ในครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ.2561 (ห้ามนำเข้าและมีไว้ในครอบครอง) พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242, 244 สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่ง ม.3 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง

ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้นอกระบบ ทวงหนี้โหด หนึ่งในนั้นพบเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. นำหมายค้นศาลจังหวัดลำปาง ที่ ค 29/2568 ลงวันที่ 20 มี.ค.2568 ทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในม.3 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง พบนายอนุสรณ์ ฯแสดงตัวเป็นผู้ครอบครอง จึงแสดงตัวพร้อมขอเข้าตรวจค้นพบ นามบัตรเงินกู้นอกระบบ กว่า 80 ใบ, สมุดบัญชีธนาคาร ระบุยอดเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท ,สมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม หลายรายการเป็นชื่อบุคคลอื่น , ภาพและข้อความสนทนาการทำร้ายลูกหนี้ ที่ตรวจพบจากโทรศัพท์มือถือ, บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง หัวพอต และอุปกรณ์อื่นกว่า 30 รายการ

ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้นอกระบบ ทวงหนี้โหด หนึ่งในนั้นพบเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท

จากการสอบถามนายเอ (นามสมมุติ) ให้การว่า ตนได้ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการเรียกดอกเบี้ยจากเงินที่ให้กู้ ในอัตราร้อยละ 20 ต่อเดือน โดยให้ลูกค้ากู้ยืมเงินจำนวน 5,000 บาท มีกำหนดชำระดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นคืนภายใน 24 วัน และต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยวันละ 250 บาท จนกว่าจะครบวันที่กำหนด หากผู้กู้เงินผิดนัดชำระจะมีการทวงหนี้โดยวิธีการข่มขู่ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) มาทำบันทึกการจับกุมที่ สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง จากนั้นนำ ส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง ดำเนินคดีต่อไป

ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้นอกระบบ ทวงหนี้โหด หนึ่งในนั้นพบเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่ากระทำความผิดจริงพร้อมรับว่าเคยทำงานอยู่กับเว็บไซต์พนันออนไลน์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเมื่อ 2 ปีก่อน และได้นำเทคนิคการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางการเงิน เช่น การใช้บัญชีผู้อื่น บัตรเอทีเอ็ม มาปรับใช้กับธุรกิจเงินกู้นอกระบบที่ตนดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้นอกระบบ ทวงหนี้โหด หนึ่งในนั้นพบเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท

จุดที่ 2 จับกุม นายบี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี โดยกล่าวหาว่า 1ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่58พ.ศ. 2515 มาตรา 4 สถานที่จับกุม: บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 13 ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. นำหมายค้นศาลจังหวัดลำปาง ที่ ค 28/2568 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 13 ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ขณะเข้าทำการตรวจค้น พบนายธเนศ ฯ อยู่ภายในบ้าน โดยแสดงตนเป็นผู้ครอบครองและให้ความร่วมมือในการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบของกลาง เป็นนามบัตรโฆษณาเงินกู้นอกระบบ จำนวน 34 ใบ (โปรยตามร้านค้า/บ้านเรือน), สมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม , โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง (ซึ่งมีข้อมูลการพูดคุยเรื่องเงินกู้) ,คอมพิวเตอร์แบบพกพา (Laptop) จำนวน 1 เครื่อง

ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้นอกระบบ ทวงหนี้โหด หนึ่งในนั้นพบเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท

จากการสอบถามเบื้องต้น นายบี (นามสมมุติ) ให้การว่า ตนได้ประกอบธุรกิจสินเชื่อเงินกู้นอกระบบ โดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ 20 ต่อระยะเวลา 24 วัน เช่น กู้เงิน 10,000 บาท จะต้องชำระคืนเป็นรายวันวันละ 500 บาท รวมยอดชำระทั้งสิ้น 12,000 บาท ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 304 ต่อปี จึงควบคุมตัวนายบี (นามสมมุติ) มาทำบันทึกการจับกุม ที่สภ.ทุ่งฝาย จ.ลำปาง และส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าตนเป็นผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบจริง โดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย และเป็นผู้โปรยใบปลิวโฆษณาด้วยตนเอง

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

Leave a Comment