เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันจนถึงแก่ชีวิต ที่หมู่บ้านตะเฆ่ค่าย หมู่ที่ 4 ต.วังใหญ่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนายนิยม (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้า โดยมีเลือดไหลออกจากศีรษะนองเต็มพื้น สภาพคร่อมรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน นครสวรรค์ โดยเชื่อว่า อาจจะถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบ
จากการสอบถาม นายณรงค์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) เพื่อนของผู้เสียชีวิตที่มาด้วยกัน ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลา 21.00 น.ทั้งคู่ออกไปดื่มสุราที่บ้านพักของเจ้าหน้าที่ อบต.แห่งหนึ่ง โดยขี่รถจักรยานยนต์มากันคนละคัน ระหว่างเดินทางกลับ ก่อนจะถึงบ้านของนายนิยม ประมาณ 200 – 300 เมตร มีรถกระบะสีขาว isuzu รุ่น d-max ไม่ทราบทะเบียน วิ่งเปิดไฟสูงสวนทางมาแล้วปาดหน้าให้จอด ก่อนจะมีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ กระโดดลงมาจากกระบะ จากนั้น ได้ใช้อาวุธเป็นของแข็ง ทุบเข้าบริเวณศีรษะของนายนิยม ระหว่างนั้น ตนจึงทิ้งรถจักรยานยนต์ของตนแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะโก ได้นำตัวนายณรงค์ศักดิ์ เพื่อนของผู้เสียชีวิตไปสอบสวน เนื่องจาก ยังมีคำให้การบางอย่างวกไปวนมา และบางอย่างก็มีพิรุธ แต่ก็ไม่มีหลักฐานเพียงพอ จึงปล่อยตัวไปก่อน
ล่าสุด จากการสอบถาม น.ส.อมรา พี่สาวของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า น้องชายเป็นลูกคนที่ 8 ในจำนวน 9 คน อาชีพรับจ้างและรับเหมาทั่วไป อาศัยอยู่กับพ่อแม่ภายในหมู่บ้านตะเข้ฆ่าย เคยมีครอบครัว แต่เลิกรากันไปแล้ว ส่วนตนอาศัยอยู่ในตลาด อ.ท่าตะโก โดยประมาณ 5 ทุ่ม ได้รับโทรศัพท์จากญาติ ๆ ว่า น้องชายถูกทำร้าย แต่ยังไม่รู้ว่าน้องชายเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุ ตนก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ว่าคนก่อเหตุเป็นใคร โดยเบื้องต้น น้องชายมีโรคประจำตัวคือธาลัสซีเมีย ต้องให้เลือดทุก ๆ 3 – 4 เดือน เนื่องจาก ก่อนหน้านี้เคยเกิดอุบัติเหตุตกนั่งร้าน ทำให้ต้องเสียดวงตาไป 1 ข้าง และสมองได้รับการกระทบกระเทือน เลยทำให้อารมณ์ของน้องชายเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย มักจะสังสรรค์กับเพื่อนบ้านอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่เคยทำร้ายใคร จะมีบ้างก็เรื่องเอะอะโวยวาย พูดจาโผงผาง อาจจะทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยเกิดความไม่พอใจ จนเกิดการทำร้ายกันขึ้น
