เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 14 มีนาคม 2568 เหตุการณ์อดีตลูกจ้างอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งย่านทุ่งครุ ก่อเหตุลักทรัพย์อดีตนายจ้างของตัวเองซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (วันที่ 13 มีนาคม 2568 เวลา 02.00 น.) ในช่วงวันและเวลาดังกล่าวได้มีคนร้ายบุกรุกเข้าไปภายในบ้านของนาย รักพงศ์ สงวนพันธุ์ ซึ่งเปิดกิจการเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 78,000 บาท
พ.ต.อ.จุมพล สินศิริพงษ์ ผกก.สน.ทุ่งครุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนโดย พ.ต.ท.อนุพงษ์ อรุณคีรีโรจน์ รอง ผกก สส.สน.ทุ่งครุ , พ.ต.ท.ทวี จัดสนาม สว.สส.สน.ทุ่งครุ จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 211 ซอย ประชาอุทิศ 76 แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเปิดกิจการเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ และได้พบผู้แจ้งเพื่อสอบถามถึงพฤติการณ์และเหตุที่แจ้ง เพื่อเป็นข้อมูลสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย
นาย รักพงศ์ สงวนพันธุ์ เป็นผู้เสียหายแจ้งว่าได้มีชายไม่ทราบชื่อสกุล เดินเข้ามาก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินภายในบ้านของตนเอง ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 13 มีนาคม 2568 โดยคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีเขียวใส่หมวกปิดบังใบหน้าด้วยหมวกโม่ง ไม่ทราบว่าเป็นผู้ได เข้ามาลักเอาทรัพย์สินภายในอู่ซ่อมรถยนต์ของตนไปหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 78,000บาท มีอาทิ 1.บันไดอลูมิเนียม 2.ถังน้ำมันอลูมิเนียม 3.กล่องเครื่องมือ 4.หม้อน้ำอลูมิเนียม และก่อนหน้านี้ผู้เสียหายเคยถูกลักทรัพย์สินในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ณ บ้านที่เกิดเหตุต่อมาจึงทราบว่าคนร้ายคือนาย อนุชา หรือน็อต ทาสีทอง อายุ 35 ปี เป็นอดีตลูกจ้างของอู่รถยนต์ดังกล่าวนั่นเอง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวคนร้ายแล้ว วางแผนติดตามจับกุมตัวคนร้ายโดยรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 13 มีนาคม 2568 ฝ่ายสืบสวนสน. ทุ่งครุ ได้ติดตามจับกุมคนร้ายได้ ที่บ้านเลขที่ 215 ซอยประชาอุทิศ 76 แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่บริเวณใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุ พร้อมของกลางครบทั้งหมด
โดยผู้เสียหายได้ยืนยันทรัพย์สินและได้ยืนยันตัวผู้ก่อเหตุซึ่งคนร้ายเคยเป็นพนักงานเก่าของตนที่เคยทำงานที่บ้านเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกับแจ้งสิทธิ ณ ที่จับกุมให้ผู้ถูกจับทราบ แล้วได้นำตัวผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยของกลางส่งเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน