กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม น.ส.นุชฯ (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 428/2568 ลง 22 ม.ค.68 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าห้องแถวไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ หมู่ 4 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม
พฤติการณ์ ด้วยเมื่อประมาณปลายเดือน มกราคม 2568 กก.3 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องขอให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการคนร้าย กรณี เมื่อประมาณต้นปี 2566 ขณะที่ผู้เสียหายเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้มีอินสตาแกรม (IG) ปลอมที่ทราบภายหลังว่ามีคนร้ายปลอมเป็นบัญชีเพื่อนสนิท ส่งข้อความลิงก์Google form เชิญชวนเที่ยวต่างประเทศโดยให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ สกุล เลขบัตรประชาชน ผู้เสียหายจึงทำการกรอกไป ต่อมาเมื่อผู้เสียหายกำลังเดินทางกลับมาประเทศไทย พบว่าเงินในบัญชีสูญเกือบ 1 ล้านบาท ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาพบพนักงานสอบสวนในพื้นที่ร้องทุกข์ให้ติดตามตัวคนร้าย และเนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับมิจฉาชีพออนไลน์ที่สนใจของกระแสสังคมในขณะนี้ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้ สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. ดำเนินการสืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายในขบวนการมาดำเนินตามกฎหมาย
จากการสืบสวนทราบว่า หลังจากที่คนร้ายได้ข้อมูล จากลิงก์ Google form คนร้ายได้ทำการแฮกข้อมูลโดยเอาเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหาย มาผูกกับบัญชีธนาคารกับโทรศัพท์อุปกรณ์ใหม่ของคนร้าย ทำการผ่องถ่ายเงิน จากบัญชีผู้เสียหาย จำนวน 26 ครั้ง รวมจำนวน 999,990 บาท ไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.นุชฯ แล้วพบว่า มีการกดถอนเงินสดออก ก่อนส่งให้นายหน้ามาทางพัสดุ โดยมีบอสใหญ่เป็นผู้สั่งการ
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทำการสืบสวนจนทราบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องในกลุ่มขบวนการ ตั้งแต่ เจ้าของบัญชีม้า, นายหน้ารับซื้อบัญชีม้า, คนกดเงินสด, และคนรับ-ส่งพัสดุ ก่อนที่ต่อมาพนักงานสอบสวนจะได้ขอศาลออกหมายจับ น.ส.นุชฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 428/2568 ลง 22 ม.ค.68 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานทำการขอหมายค้นต่อศาล และศาลอนุมัติตามคำขอ
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. เปิดปฏิบัติการ OPERATION AOC Case แอปฯ ดูดเงิน พ.ต.ท.ณัฐดนัยฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทำการตรวจค้น 4 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น และมหาสารคาม เพื่อเข้าค้นหาพยานหลักฐานและกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้อง ผลการตรวจค้น พบบุคคลที่กลุ่มขบวนการดังกล่าว จำนวน 4 คน
ให้การรับสารภาพว่าได้ติดต่อขอซื้อบัญชีม้าจาก น.ส.นุชฯ และได้รับสารภาพว่าเป็นคนไปกดเงินสดจริง พร้อมตรวจยึดสิ่งของที่ใช้เป็นพยานหลักฐาน ได้แก่ รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน, เสื้อผ้าที่คนร้ายใส่ไปกดเงิน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และเข้าทำการจับกุม น.ส.นุชฯ ได้ที่ บริเวณหน้าห้องแถวไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ หมู่ 4 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.สอท.1 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน