วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล 3 ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. (ด้านงานสืบสวน) และ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (ด้านงานยาเสพติด) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมร้านค้าลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมและของมึนเมาแบบ “ครบวงจร” ย่านถนนนิมิตใหม่ แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการร้องเรียนของประชาชนว่าบริเวณปากซอยนิมิตใหม่ 40 มีร้านขายน้ำกระท่อมชื่อว่า “ALL IN ONE” เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจัดส่งด่วนในลักษณะที่เรียกว่า “สงครามส่งด่วนน้ำกระท่อม” โดยร้านดังกล่าวจำหน่ายของมึนเมาหลายประเภทโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบไรเดอร์หลายคนรอรับคิวหน้าร้าน พร้อมป้ายโฆษณา “ใบกระท่อมปทุมแท้ 100%” และ “เปิด 24 ชั่วโมง” จากการตรวจค้นภายในร้าน พบของกลาง ได้แก่: น้ำกระท่อมต้มบรรจุขวดขนาด 1.5 ลิตร และ 600 ซีซี รวม 81 ขวด แช่ในลังน้ำแข็ง , ยาแก้ไอน้ำเชื่อม 3 ยี่ห้อ จำนวน 32 ขวด , บุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีรวม 30 ซอง , ป้ายราคาสินค้า ตราชั่ง และเงินสด 1,180 บาท
ผู้ดูแลร้านคือ น.ส.นิตยา (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ขณะเข้าจับกุม มีพฤติกรรมขัดขืนและโวยวายเสียงดัง พร้อมตะโกนว่า “ช่วยด้วย ตำรวจยัดยา!” และใช้เท้าถีบเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหลายราย
ภายหลังนำตัวมาที่กองกำกับการสืบสวน บก.น.3 น.ส.นิตยาให้การรับสารภาพว่า จำหน่ายน้ำกระท่อมขนาด 1,500 ซีซี ขวดละ 50 บาท, ขนาด 600 ซีซี ขวดละ 45 บาท ส่วนยาแก้ไอขายขวดละ 80 บาท สำหรับลูกค้าที่นำไปผสมเป็นสูตร 4×100 และบุหรี่ต่างประเทศซองละ 40 บาท โดยเปิดร้าน 24 ชั่วโมงและมีบริการจัดส่งออนไลน์ทุกประเภท น.ส.นิตยาอ้างว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในอาการมึนเมาจากการดื่มน้ำกระท่อม จึงมีอารมณ์ฉุนเฉียวและขาดสติ
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา 6 ข้อ ได้แก่: จำหน่ายอาหารที่มีพืชกระท่อมเป็นส่วนผสมโดยไม่ได้รับอนุญาต , ขายยาแผนปัจจุบัน (ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต , มีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าหนีภาษี (ยาสูบ) ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 , ช่วยซ่อนเร้นหรือจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 , ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ , ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สน.นิมิตใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป