สุดทน! พ่อวัย 84 ปี ลั่นไกดับชีวิตลูกชาย เมียเข้าห้ามโดนลูกหลงดับอีกราย โมโหยกที่ดิน-บ้านให้หมด แต่กลับเอาไปจำนองจนเป็นหนี้ ต้องไปกู้เงินมาไถ่ถอนที่คืน

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 4 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ หลังรับแจ้ง จึงนำกำลังฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ ไปตรวจสอบ

สุดทน! พ่อวัย 84 ปี ลั่นไกดับชีวิตลูกชาย เมียเข้าห้ามโดนลูกหลงดับอีกราย โมโหยกที่ดิน-บ้านให้หมด แต่กลับเอาไปจำนองจนเป็นหนี้ ต้องไปกู้เงินมาไถ่ถอนที่คืน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ พบร่างนายสุวัฒน์ อายุ 55 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอกด้านขวา 1 นัด ที่ท้องน้อย 1 นัด และที่แก้มขวา 1 นัด ไหปลาร้า 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้าน พบผู้บาดเจ็บอีกราย ทราบชื่อคือ นางนวลฉวี อายุ 80 ปี ถูกยิงที่คอได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลดอนเจดีย์ ไปก่อนหน้าแล้ว แต่นางนวลฉวี ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคือ นายเรือง อาวาส อายุ 84 ปี  เป็นพ่อแท้ ๆ ของนายสุวัฒน์ ผู้เสียชีวิต และเป็นสามีนางนวลฉวี หลังก่อเหตุนายเรือง พ่อปืนโหด ได้นำอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .32 ที่ใช้ก่อเหตุ ไปซ่อนในกระถางต้นไม้ บริเวณข้างโรงเรียน ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดอาวุธปืนเอาไว้ได้ ภายลูกโม่มีกระสุนคาอยู่ 5 นัด และที่ยิงไปแล้ว 1 นัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายวีระ อายุ 56 ปี ลูกชายคนโตของนายเรือง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากญาติว่า พ่อได้ก่อเหตุยิงน้องชายคนที่ 3 เสียชีวิตและแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบมาดู ก็เห็นพ่อถือปืนชี้หน้าตนส่ายไปมา เหมือนคนขาดสติ อย่างน่าหวาดกลัว ตนจึงทำใจดีสู้เสือ พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมให้พ่อใจเย็น ๆ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พ่อจึงค่อย ๆ ใจเย็น และยอมนำอาวุธปืนไปซ่อนในกระถางต้นไม้บริเวณข้างโรงเรียน ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร โดยพ่อให้ตนขี่รถจักรยานยนต์พาไปตั้งสติ สงบอารมณ์ที่บ้านญาติ ที่ตำบลไร่รถ ห่างจุดเกิดเหตุเกือบ 10 กิโลเมตร ก่อนถึงจะเข้ามอบตัว

สุดทน! พ่อวัย 84 ปี ลั่นไกดับชีวิตลูกชาย เมียเข้าห้ามโดนลูกหลงดับอีกราย โมโหยกที่ดิน-บ้านให้หมด แต่กลับเอาไปจำนองจนเป็นหนี้ ต้องไปกู้เงินมาไถ่ถอนที่คืน

ต่อมา ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัว ที่หมู่ 1 ตำบลไร่รถ อำเภอดอนเจดีย์ ซึ่งระหว่างนั้น ญาติได้พาผู้ก่อเหตุขึ้นรถเก๋ง อ้างว่ากำลังจะพามามอบตัว แต่ไม่ยอมให้ผู้ก่อเหตุขึ้นรถตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ และได้มีปากเสียงกับญาติผู้ก่อเหตุเล็กน้อย จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำรถตำรวจปิดหัวท้าย 6 คัน เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุส่ง สภ.ดอนเจดีย์ ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ยังไม่ทราบ

สุดทน! พ่อวัย 84 ปี ลั่นไกดับชีวิตลูกชาย เมียเข้าห้ามโดนลูกหลงดับอีกราย โมโหยกที่ดิน-บ้านให้หมด แต่กลับเอาไปจำนองจนเป็นหนี้ ต้องไปกู้เงินมาไถ่ถอนที่คืน

ทางด้าน นายไพบูลย์ สมบูรณ์ดี อดีตครูที่โรงเรียน กล่าวว่า คนยิงอายุมากแล้ว ซึ่งเป็นสามีของผู้หญิงที่โดนยิงเสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุคนเสียชีวิตนั่งกินเหล้าอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทะเลาะกันหรือเปล่า ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นปัญหาในครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินมรดกที่มีมานาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อเกิดเหตุนายเรือง ผู้ก่อเหตุ นั่งดื่มเหล้าอยู่กับญาติที่หน้าบ้าน หลังจากเลิกดื่มเหล้ากันแล้ว ทางญาติได้กลับบ้านไป จากนั้นนายเรือง ได้ก่อเหตุยิงนายสุวัฒน์ แล้วนางนวลฉวี ภรรยาเข้ามาห้าม จึงถูกนายเรือง สามียิงได้รับบาดเจ็บ ญาตินำตัวส่ง รพ. แต่นางนวลฉวี ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายสุวัฒน์ ลูกชายเสียชีวิตคาที่

สุดทน! พ่อวัย 84 ปี ลั่นไกดับชีวิตลูกชาย เมียเข้าห้ามโดนลูกหลงดับอีกราย โมโหยกที่ดิน-บ้านให้หมด แต่กลับเอาไปจำนองจนเป็นหนี้ ต้องไปกู้เงินมาไถ่ถอนที่คืน

ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผู้กำกับ สภ.ดอนเจดีย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายเรือง ผู้ก่อเหตุเบื้องต้นให้การว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่ตนได้ยกมรดก บ้านที่ดินให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 3 แต่เขากลับแอบเอาที่ดินไปจำนองจนเป็นหนี้ ผู้ก่อเหตุต้องไปกู้เงินมาไถ่ถอนที่คืน ทำให้มีปัญหากันมานานนับปี กระทั่งก่อนเกิดเหตุ ได้ดื่มสุราเล็กน้อย ก่อนที่จะมีปากเสียงทะเลาะกับลูกชายอย่างรุนแรง ก่อนจะไปเอาอาวุธปืนมาก่อเหตุยิงลูกชาย และภรรยาซึ่งอยู่ใกล้กันได้เข้ามาห้าม ผู้ก่อเหตุโมโห จนขาดสติคิดว่า ภรรยาตัวเองเข้าข้างลูกชาย จึงใช้ปืนยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงจึงแจ้งข้อกล่าวหานายเรือง ฆ่าผู้อื่นโดนเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฏหมาย พร้อมสืบหาความจริงเกี่ยวกับสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี รายงาน

Leave a Comment