วันที่ 8 พ.ค.68 กรณี น.ส.อุ๊ และนายโต้ง 2สามีภรรยา ไปร้องต้นอ้อเป็นหนึ่ง ว่าถูกลูกพี่ลูกน้องสวมชื่อทำกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบอุบัติเหตุมูลค่ารวมกว่า 120 ล้านบาท แล้วถูกคนขับรถชน ซึ่งคาดว่าหมายจะเอาชีวิตเพื่อหวังเอาเงินประกันชีวิต หลังไปออกรายการโหนกระแส ได้มีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว และอยากจะทราบข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะอยากรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ล่าสุดนายทรงพล สดใส ทนายความที่ว่าความให้กับนายโต้ง กับ น.ส.อุ๊ ได้ออกมาระบุว่าตนรู้จักกับสองสารมีภรรยานี้ กับ น.ส.วัชรี คู่กรณีเป็นอย่างดีเพราะทั้งสองฝ่ายเคยให้ตนทำคดีให้ หลังเกิดเรื่องขึ้นตนพยายามให้ไกล่เกลี่ยกันเพราะเป็นพี่น้องกัน เดี๋ยวเรื่องจะลุกลามไปมันจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ฝ่ายผู้เสียหายคือสองสามีภรรยาพร้อมจะเคลียร์ แต่อีกฝ่ายไม่ยอม
เอกสารทั้งหมดของสองสามีภรรยาที่ฝั่ง น.ส.วัชรี ได้ไปเพราะเขาเคยช่วยเหลือตอนที่สองคนนี้อยู่เรือนจำ น.ส.วัชรี เป็นคนประกันตัวให้ทั้งสองด้วย เอกสารส่วนใหญ่จึงไปอยู่กับ น.ส.วัชรี
ส่วน น.ส.กษิรา อีกหนึ่งคนที่เป็นคนซื้อประกันชีวิตให้นายโต้ง และเป็นผู้รับผลประโยชน์ น่าจะเป็นนอมีนีของ น.ส.วัชรี เพราะดึงเขามาเป็นหุ้นส่วน สำหรับนายโต้ง ซึ่งมีชื่อเป็นหุ้นส่วนเช่นเดียวกันนั้น นายโต้ง ไม่ได้รู้ตัวมาก่อน เพื่อใช้ความส่วนได้เสียมาเอาเงินประกัน หากถามว่าโรงพยาบาล ,ตัวแทนประกัน ส่วนตัวเชื่อว่าเกี่ยวข้อง นายทรงพล กล่าวด้วยว่า กรณีคนขับรถกระบะพุ่งชนเป็นตำรวจหรือไม่นั้น ตนบอกไม่ได้แต่เท่าที่สืบหลักฐานมามีทั้งยศและตำแหน่งชัดเจน เป็นตำรวจชั้นประทวนเป็นคนก่อเหตุ ข้อพิพาทของทั้งสองต่างคนต่างมีเหตุผล ฝั่งน.ส.วัชรี อ้างว่าเขาเป็นผู้สูญเสียซึ่งคาดว่าน่าจะถูก น.ส.อุ๊ เอาเงินไปมากแล้วไม่ได้คืน แต่จะไม่ควรจะมาเอาคืนด้วยวิธีนี้
ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เพราะมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นตัวการใหญ่รวยมาก มีทนายด้วย ตนไม่บอก กษิรา จะเป็นคนของผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ตนไม่รู้แต่เชื่อว่าน่าจะคอยแบ่งผลประโยชน์กัน มันเป็นกระบวนการไม่น้อยกว่า 7-8 คน ซึ่งน.ส.อุ๊ น่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่เบื้องหลังอีกเหมือนกัน
ทนายทรงพล กล่าวอีกว่า หลักฐานจากโรงพยาบาลแปลกมากแทบจะเชื่อไม่ได้เลย มุมมองส่วนตัวคือบริษัทประกันเองเป็นต้นเหตุหรือไม่ที่ทำให้มีการเข่นฆ่ากัน บริษัทรับทำประกันแล้วรับเบี้ย หลังจากเสียชีวิตประกันก็ไม่จ่าย เพราะมีเหตุโน้นนั่นนี่มีแต่กินกับกิน น่าจะมีการตรวจสอบให้ดีรับเบี้ยอย่างเดียวตายได้ก็ไม่จ่าย
จึงอยากจะฝากเตือนทั้งผู้ที่คิดจะทำแบบนี้เพราะบริษัทประกันไม่จ่ายเงิน เขามีความชำนาญในเรื่องนี้เคสไหนผิดปกติเขาไม่จ่าย โดยสรุปประกันเรียกเบี้ย ถ้าคนไม่ตายก็กินเบี้ย ถ้าตายก็ไม่จ่ายเพราะผิดหลักเกณฑ์
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.บุรีรัมย์ รายงาน