ณพ ณรงค์เดช มอบทนาย แจ้งความ บก.ปปป. สืบหาตัวไอ้โม่งเงินสินบน 100 โล หลังมีการร้องเรียน 2 ตุลาการใหญ่
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 เม.ย.68 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เขตจตุจักร กทม. นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ และนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก นายณพ ณรงค์เดช นักธุรกิจชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อให้สืบสวนและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง จากกรณีมีข่าวการเสนอเงิน 100 กิโลฯ เกี่ยวข้องไปถึงผู้บริหารศาลบางรายด้วย
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายของนายณพ ณรงค์เดช ได้มอบอำนาจให้ตนมาแจ้งความ เกี่ยวกับความผิดในด้านตำแหน่งหน้าที่ต่อการยุติธรรม ตามที่มีข่าวจากสำนักข่าวอิศรา ที่เผยแพร่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เดือนม.ค.ว่า คณะกรรมการตุลาการ (กต.)ได้วินิจฉัยว่ามีผู้พิพากษาระดับอธิบดี และรองอธิบดีของศาลแห่งหนึ่งใน กทม. มีความผิดถึงขั้นผิดวินัยร้ายแรงและมีการสั่งพักราชการไปแล้วหนึ่งท่าน อีกท่านหนึ่งมีข่าวว่าได้มีเรื่องเงิน 100 กิโล เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เรื่องดังกล่าวนี้ที่จะรับฟังและอ่านมาจากสำนักข่าวอิศราฯ นั้น มีความสอดคล้องใกล้เคียงกับเรื่องที่นายณพ ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการตุลาการ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าใช่เรื่องเดียวกับที่เราร้องเรียนไปหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ได้ทราบผลการวินิจฉัยมาจาก กต.
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเรื่องของสินบนที่เกิดขึ้น เป็นเงินจำนวนก้อนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม แม้จะเป็นความผิดต่อรัฐ นายณพ เห็นว่าสมควรต้องมาแจ้งความให้กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ซึ่งมีอำนาจสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงหาเส้นทางการเงินว่าตามข่าวที่สำนักข่าวอิสราได้นำมาเผยแพร่นั้นเป็นความจริงหรือไม่
หากเป็นความจริงเรื่องการให้และรับสินบน มีใครบ้างเป็นผู้ให้และใครเป็นผู้รับ มีใครเกี่ยวข้องมีขบวนการอย่างไร เพื่อทำให้ความจริงกระจ่างชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายณพถูกปรักปรำโดยบุคคลที่เกี่ยวข้อง ว่าเกี่ยวข้องกับเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งนายณพ ได้ยืนยันปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง และเป็นเรื่องที่ตนเองได้ร้องเรียนไปยัง กต. ในวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
และเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดจึงมาแจ้งความให้พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายถือว่ากระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนสมควรจะต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างชัด
นายเฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้อาจจะมีการผิดกฎหมายหลายฉบับ มีองค์กรที่จะตรวจสอบหลายองค์กรตนเชื่อว่าเมื่อมีข่าวปรากฏเช่นนี้แต่ละองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตคงจะขยับตัวและหาข้อมูล ซึ่งแต่ละองค์กรต้องตรวจสอบดูแลให้องค์กรของตนโปร่งใสปราศจาก การทุจริตคอรัปชั่นโดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องกับด้านกระบวนการยุติธรรมด้วย
สำหรับกรณีนายณพ เกี่ยวข้องกับเงินจำนวน 100 กิโลฯนั้น มีการพูดจาใส่ความเกิดขึ้นในห้องพิจารณาของศาล ซึ่งจะมีการพิจารณาดำเนินคดีต่อไปอีกด้วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป.รับแจ้งความตรวจสอบพยานหลักฐานที่ผู้รับมอบอำนาจนำมามอบให้ก่อนจะเสนอ ผู้บังคับบัญชาพิจารณา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป