กัน จอมพลัง ลั่นไม่หวั่น พีช ลูกนักการเมือง อยากรู้แค่สำนึกผิดจริงไหม

กัน จอมพลัง ยันคุย พีช หน้าสื่อ หวังอยากให้ทุกคนได้รู้สำนึกจริงหรือไม่ ไม่หวั่นความเป็นลูกนักการเมือง ลูกสาวชี้ พ่อแม่ยังไม่อยากเจอหน้า ผวาเหตุการณ์

เวลา 15.40 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่ สภ.ลำลูกกา กัน จอมพลัง พร้อมกับ นางสาวแสงอรุณ หาญเหมย ลูกสาวผู้เสียหาย ได้เดินมาพบกับพนักงานสอบสวน และ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช และนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกฯ เบี้ยว หลังจากทราบว่า คู่กรณี อยากจะมาขอโทษ

ก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เนื่องจาก นายกฯ เบี้ยว ไม่ให้ลูกชาย ตอบอะไรกัน จอมพลัง และระบุว่า อยากมาขอโทษ เท่านั้น เพราะค่าเสียหายต่างๆ นั้น ตั้งใจจะดูแลให้อยู่แล้ว

กัน จอมพลัง กล่าวภายหลังว่า วันนี้พาทางครอบครัวพร้อมกับพยานที่เห็นเหตุการณ์มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยวันนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ฝั่งนายพีชที่พูดว่าอยากจะพบเจอเพื่อขอโทษหรือพูดคุยกับทางฝั่งครอบครัวของผู้เสียหาย แต่จากที่ตนเองพูดคุยกับครอบครัวก็อยากให้พบเจอกันในที่แจ้งต่อหน้าสื่อ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่านายพีชสำนึกผิดจริงหรือไม่ หรือถูกกดดันจากสังคมจึงออกมาขอโทษ เนื่องจากเมื่อวานนี้นายพีชได้พูดในรายการหนึ่งว่า หากลุงและป้าผู้เสียหายจอดรถ ก็จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

หวิดวุ่น นาทีพีช คุกเข่าขอโทษ กัน จอมพลัง ซัด มัดมือชกเกิน

กัน จอมพลัง กล่าวต่อว่า ซึ่งคดีในช่วงแรกนั้นทางฝั่งตำรวจทางหลวงก็ได้สรุปแล้วว่าเป็นการประมาทร่วม ตนเองมองว่าหากมีความเอื้ออาทรกันบนท้องถนน เหตุการณ์ทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น และจากคำกล่าวอ้างต่างๆของนายพีช แต่หากเทียบกับคลิปและตามคำบอกเล่าของฝั่งครอบครัวผู้เสียหาย ตนมองว่าคนละเรื่อง

โดยในวันนี้วันนี้จะนำข้อมูลต่างๆที่พยานนำมาให้ในส่วนที่น่าสนใจก็คือ เรื่องของความเร็ว ที่มีพยานบางคนเห็นว่าก่อนหน้านี้ เจอกับรถของนายพีช บนเส้นทางด่วนดังกล่าว พบว่ามีการขับเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงอยากให้ทางตำรวจสอบว่าความเร็วที่ใช้ในเวลานั้นอยู่ที่เท่าไร หากความเร็วออกมาสูงการเบียดในลักษณะแบบนั้นจะสามารถทำให้ลุงกับป้าเสียชีวิตได้หรือไม่

หวิดวุ่น นาทีพีช คุกเข่าขอโทษ กัน จอมพลัง ซัด มัดมือชกเกิน

อีกประเด็นคือให้สอบหมอที่รักษาลุง ว่าอาการกระดูกซี่โครงหัก 6 ซี่ สามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่ จะสามารถเพิ่มข้อกล่าวหาได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องที่นายพีชมีการลงบันทึกประจำวันไว้ในช่วงวันเกิดเหตุที่แจ้งว่าลุงขับชนตัวเอง ส่วนนี้จะเป็นการลงข้อความเท็จในเอกสารหรือไม่

กัน จอมพลัง เปิดเผยอีกว่า ก่อนที่ตนเองจะมามีพี่ชายของตนเองโทรหา ขอตนเองในบางเรื่อง ตนจึงขอกลับไปว่า ให้หยุดปากแจ๋ว และขอให้นายพีชรู้สึกผิดจริงๆ และให้รับผิดชอบผู้เสียหายแบบเต็มที่ มองว่าจะเยียวยาในส่วนใดบ้าง เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นให้ใครมาบอก คนที่อาสารับใช้ประชาชนต้องคิดได้ และตามคำกล่าวอ้างของนายกเบี้ยวที่บอกว่านายพีชว่า ยังเด็ก อ่อนไหวและอ่อนประสบการณ์ จึงอยากถามกลับอีกว่า หากยังอ่อนไหวและอ่อนประสบการณ์จะมารับใช้ประชาชนได้หรือ

กัน จอมพลัง ย้ำว่า ไม่กังวลว่านายพีชจะเป็นลูกนักการเมือง หรือนามสกุลดังหรือรวย อยากให้ทราบว่าคนจนก็มีแรงสู้ และต้องได้รับความยุติธรรม นอกจากนี้ที่ตำรวจได้ปล่อยตัวนายพีช โดยไม่ให้วางหลักทรัพย์ในการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะนายพีชมามอบตัว บรรทัดฐานตรงนี้เป็นแบบนี้กับทุกคนหรือไม่

ด้าน นางสาวแสงอรุณ กล่าวว่า เมื่อวานที่นายพีชขอโทษผ่านทางรายการ มองว่านายพีชถูกกดดันจากสังคมและสื่อ จึงอยากทราบว่านายพีชรู้สึกผิดจริงหรือไม่ แต่จากเมื่อวานที่ดูไม่เห็นความจริงใจเท่าไร มองว่าที่ออกมาขอโทษจะนำไปประกอบในการลดทอนโทษของคดีหรือไม่ อาจเป็นการช่วยเหลือตนเอง ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถพูดคำว่าอภัยได้ เพราะพ่อแม่ตนเองยังอยู่โรงพยาบาล

อยากเห็นความรับผิดชอบแบบชัดเจน รวมถึงอยากได้รับความปลอดภัยทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งตนเองและแม่ยังคงหวาดระแวงอยู่ นอนไม่หลับตั้งแต่วันเกิดเหตุ รู้สึกว่าครอบครัวตนเองเป็นเพียงคนธรรมดาตัวเล็กๆ ซึ่งตัวแม่เองก็ยังไม่พร้อมเจอเพราะยังคงกลัวอยู่

ตนเองคิดว่าหากกัน จอมพลัง ไม่มาช่วยคงไม่ได้รับคำขอโทษ และเรื่องคงไม่ดำเนินไว ส่วนเรื่องการเมือง ตนไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ ตนเองอยากให้มาขอโทษกลางสื่อ เพื่อแสดงความจริงใจ

​ต่อมา กัน จอมพลัง กล่าวว่า เห็นว่าเป็นการเจรจาหรือไม่ ส่วนตัวยังรู้สึกว่าเป็นการเจรจาตรงไหน ซึ่งก็ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่รู้เลยว่าค่ารักษาพยาบาล ค่ารถใครจะเป็นคนจ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่มีความชัดเจน มองว่าที่ทำแบบนี้ ทำไปเพื่อประกอบในการลดโทษ ถ้าหากเราขอโทษด้วยความจริงใจ ในเมื่อครอบครัวมีคำถามทำไมถึงไม่สามารถตอบคำถามให้ครอบครัวสบายใจได้ มองว่ามันยากเหรอที่จะแสดงความจริงใจ ไม่ใช่ว่าอยากจะทำอะไรตามใจตัวเอง พอทำตามใจเสร็จแล้วก็ไป

ตนมองว่าวันนี้เป็นโอกาสของคู่กรณี ถ้าหากตัวเขาต้องการที่จะพูดคุยตกลงทางครอบครัวก็ตกลงที่จะพูดคุย และให้เจอกับทางคุณลุงคุณป้าได้อย่างสบายใจ แต่ไม่ใช่การเปิดห้องของคุณลุงคุณป้าเข้าไปแบบนั้นอีกแล้ว และอยากให้ทางดูว่า ทางครอบครัวคู่กรณีมีความจริงใจที่จะมาขอโทษหรือไม่ นายกัน จอมพลัง ยังบอกอีกว่าคำขอโทษใครๆก็พูดได้

ในขณะที่ นางสาวแสงอรุณ บอกว่า มีคำถามที่อยากจะถามคู่กรณีแต่เขาไม่ให้ถาม ซึ่งครอบครัวติดใจว่า “นายพีช รู้สึกผิดจริงๆใช่ไหม ไม่ได้คิดว่าครอบครัวของเธอเป็นคนผิดใช่ไหม” ซึ่งมองว่าการขอโทษครั้งนี้ “เหมือนอยากจะมาขอโทษให้เห็นว่าเขามาขอโทษแล้ว” และคิดว่าที่อีกฝ่ายร้องไห้ เนื่องจากคนเยอะ และถูกกดดัน เป็นการขอโทษไปตามสภาพที่อยากจะขอโทษ และคิดว่าไม่มีความจริงใจ

ที่ผ่านมา นายกเบี้ยวได้มีการมาขอโทษแทนลูกชายหลายครั้ง แต่คำว่าขอโทษควรจะทำให้ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเอาตะกร้ามาให้แล้วบอกว่าขอโทษเพียงเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงแค่คำขอโทษแต่ไม่มีการพูดคุยในเรื่องของการเยียวยาครอบครัว ส่วนเฮียเบี้ยวมาคอยอยู่กับลูกตลอดเวลา มองว่าพ่อเขาก็รักลูกของเขา เหมือนที่เราก็รักพ่อกับแม่ของเรา เขาแสดงความชัดเจนในการเป็นพ่อที่รักลูก ส่วนจะมีการทำแทนหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

ทั้งนี้ ที่หลายคน ตั้งคำถามว่าจะสามารถทำหน้าที่ดูแลประชาชนต่อไปได้หรือไม่นั้น ในเรื่องของการเมือง ตนขอไม่ตอบ ตนตอบในฐานะของลูกสาวผู้เสียหายเท่านั้น ยืนยันว่าคุณลุงกับคุณป้ายังไม่อยากเจอในพีทเนื่องจากยังติดตากับภาพวันเกิดเหตุ ยังไม่สะดวกใจรวมถึงยังมีความกังวล

Leave a Comment