แม่ร้องไห้สะอื้น โจรขโมยเงิน ที่ฝังร่างลูกชายไป 3,000 เจอพระทักคำเดียว ยังขนลุก

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ยอดชายเซอร์วิส แอร์ กล้องวงจรปิด” ได้โพสต์รูปเบ้าฝังศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งทำด้วยท่อซีเมนต์ แต่ฝาท่อเปิดออก โดยมีกิ่งไม้ปกคลุมอยู่บนเบ้า พร้อมกับเขียนข้อความว่า “มีใครสามารถให้ข่าวได้บ้าง ขี้ยาไปทุบเบ้าเอาเงินกับศพที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เมื่อวานบ้านสินเจริญ อ.เพ็ญอุดร จัxไรคักแท่”

ซึ่งมีผู้เข้ามาเข้าชม และกดไลก์จำนวนมาก พร้อมกับคอมเมนต์ไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า สงสารทางญาติ,จุดธูปบอกให้นำไปเอาคืน, มันบอกว่าผีใช้เงินไม่เป็น เป็นต้น

ต่อมาวันที่ 16 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ป่าช้า วัดป่าพระนาไฮ บ้านสินเจริญ หมู่ 6 ต.เตาไห อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นที่ฝังศพนาย สุธทะณัช เตือนใจ หรือ แฮ่ม อายุ 20 ปี พบพระเรืองเดช เนื่องแก้ว อายุ 56 ปี พระลูกวัด นายแจ้ง โอทอ อายุ 77 ปีทวดนายสุธทะณัช นั่งอยู่บนกุฎิ เมื่อสอบถามเรื่องมีคนร้ายมาทุบเบ้าเก็บศพลักเงินศพ บอกว่ามีจริง และพาเดินไปป่าช้าห่างออกไปทางทิศเหนือของวัด พบเบ้าทำจากท่อซีเมนต์ วางต่อกัน 4 ท่อ เก็บศพนายสุธทะณัชโผล่พ้นดินครึ่งท่อฝาปิดเบ้าโบกใหม่ด้วยปูน และแห้งสนิทแล้ว

นายแจ้ง ทวดนายสุธทะณัช เล่าว่า เหลนเสียชีวิตเนื่องจากขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถปิกอัพเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 68 และนำมาสวดอภิธรรมที่วัดแห่งนี้ 1 คืน บ่ายวันที่ 15เม.ย. ก็นำร่างมาเข้าเบ้าไว้ เพราะว่าผู้ที่ตายผิดธรรมชาติจะต้องนำมาฝัง หรือเข้าเบ้าเก็บไว้ 3 ปี จึงนำขึ้นมาฌาปนกิจตามประเพณีของชาวบ้าน หากเผาทันทีจะทำให้มีคนในหมู่บ้าน หรือญาติพี่น้องเสียชีวิต อีกช่วงบ่ายได้ทำพิธีเอาร่างเข้าเบ้าไว้แล้วก็มีญาติมาบอกว่า มีขโมย ไม่รู้ว่าเป็นใคร มาเปิดฝาเบ้าที่คาดว่าปูนยังไม่แห้งขโมยเอาเงินที่ญาติ เพื่อน และชาวบ้านใส่ในโลงไป ไม่รู้จำนวนกี่บาท เป็นการทำบุญกับผู้ตายให้เอาเงินไปซื้อที่ดินเป็นที่อยู่ในภพภูมิหน้า

ไม่มีผู้พบเห็นคนร้าย ไม่รู้ว่าเป็นใค รตนเกิดมาก็ไม่เคยพบเห็นเรื่องขโมยเงินผีแบบนี้ การทำแบบนี้ถือว่าไม่ดีจะเกิดอาถรรพ์ ใครมาทำลายให้มีอันเป็นไป อย่าให้เจริญ ก็ขอให้ผู้ตายตามไปเอาเงินกับหัวขโมยกลับคืนมา” นายแจ้ง พูดด้วยความโกรธแค้น

ส่วนนางเพ็ญ เตือนใจ อายุ 50 ปี แม่ผู้ตาย และน.ส.พรพุธธาร เตือนใจ อายุ 22 ปี พี่ผู้ตายเดินทางมาที่ป่าช้า ซึ่งนางเพ็ญ เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน นายสุธทะณัชผู้ตายเป็นลูกคนเล็ก หลังเรียนจบ ม.3 ผู้ตายก็มาเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่บ้าน เพราะว่าผู้ตายร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรง ช่วงเย็นวันที่ 14 เม.ย. หลังกินข้าวเย็นผู้ตายบอกตนว่าจะไปหาเพื่อนที่ อ.บ้านดุง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้าน 20 กม. ตนได้ห้ามลูกว่าไม่ต้องไป แต่ลูกบอกว่าได้นัดกับเพื่อนแล้ว จึงขี่รถออกจากบ้านไปได้ประมาณ 6 กม. ก็เกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถปิกอัพ ที่บ้านโนนสีทองถนนสุมเส้า–บ้านดุงเสียชีวิตคาที่

เมื่อนำร่างมาเข้าเบ้าเก็บที่ป่าช้า ยังไม่ทันข้ามวันก็มีคนมาเปิดฝาเบ้าขโมยเงินในโลงไปประมาณ 3,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นเงินที่ญาติเพื่อนและชาวบ้านใส่ให้ผู้ตายเอาไว้ใช้ในภพภูมิหน้า

นางเพ็ญ เล่าต่อว่า หลังจากทำพิธีนำศพเข้าเบ้าเสร็จแล้ว ก็พากันขึ้นไปบนศาลาวัด และกลับไปบ้านทำอาหารให้แขกรับประทาน ต่อมาตนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่วัดมองเห็นระยะไกลประมาณ 200 เมตร พบผู้ต้องสงสัยเดินเข้ามาที่เบ้าของลูก แต่ไม่ได้สนใจ นึกว่ามีคนรู้จักกันมาดูที่ฝังศพลูก คิดว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้าน น่าจะเป็นคนต่างหมู่บ้าน

ต่อมาพ่อผู้ตายได้เอาพวงหรีดที่คู่กรณีมาแสดงความเสียใจมาวางไว้บนเบ้า ก็พบว่าฝาเบ้าเปิดออกจึงได้เปิดฝาออกตรวจดูโลงศพก็พบว่า เงินที่ญาติและเพื่อนใส่ไว้หายไปเหลือแค่แบงก์ 20 บาทในโลง และแบงก์ 20 บาทตกอยู่หน้าเบ้า จึงพากันโบกปูนปิดฝา

“รู้สึกโกรธ และน้อยใจ เพราะไม่อยากให้มาทำแบบนี้กับศพลูก ทำไมถึงอยากได้เงินมากขนาดนี้ คนเราต้องมีจิตสำนึก อยากฝากถึงคนที่มาขโมยเงินศพ อย่าทำแบบนี้อีกจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม เพราะเป็นการทำลายจิตใจคนเป็นแม่ ส่วนผู้ต้องสงสัยไม่ใช่คนในหมู่บ้าน จะเป็นคนนอกหมู่บ้านหรืออาจจะเป็นคนมาร่วมพิธี เพราะวันที่เอาศพเข้าเบ้าที่วัด มีงานแก้บนแ ละมีหมอลำซิ่ง มีคนจำนวนมาก ผู้ก่อเหตุซึ่งอาจจะมาดูพิธีพอเห็นเงินมากก็อยากได้ เลยมาทุบฝาเบ้าขโมยเงินผีไป ตนไม่แจ้งความใคร เพราะไม่อยากจองเวรกับใคร อยากให้ลูกไปสู่สุขคติ ให้คนร้ายไปซะให้ถือว่าให้เป็นบุญกุศลของลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี”

จากนั้นนางเพ็ญ และ น.ส.พรพุธธาร แม่และพี่สาวผู้ตายได้ไปบอกกล่าวที่หน้าเบ้าใส่ศพนายสุธทะณัช หรือ แฮ่ม ว่าไม่ต้องไปจองเวรจองกรรมกับใคร ให้ไปพบภูมิที่ดี ไปอยู่ที่ดีๆ ไปเป็นเทวดา เกิดชาติหน้าให้เป็นคนดีคนงามเหมือนเดิม อย่าเอาโรคภัยมาด้วย และอย่ามาเกิดอุบัติเหตุจากกันไปแบบนี้ ให้อายุยืนจนถึงแก่เฒ่า ไม่ต้องไปจองเวรกับผู้ที่มาทำกับลูก ขอให้ได้รับส่วนบุญที่แม่ทำให้ก็พอ

ส่วนพระเรืองเดช เนื่องแก้ว 56 ปี พระลูกวัดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ใครที่มาทำแบบนี้ ถือว่าบาปเป็นบาปเป็นกรรมกับผู้ตาย เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่วัดแห่งนี้เลย ถือว่าเป็นครั้งแรก ส่วนผู้ที่มาก่อเหตุก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่พอเข้าไปสวดมนต์เย็นที่บ้านผู้ตายจึงได้รู้ว่ามีการทุบเบ้าลักเงินผี อยากฝากบอกผู้ที่มาทำว่ามันจะตกนรกเป็นบาปเป็นกรรมเจ้าของเงินจะเฮี้ยน และตามไปทวงเงินคืนเขาตายผิดธรรมชาติ จะเหมือนคนตายทั้งกลม จะเฮี้ยนวิญญาณ จะวนเวียนอยู่ที่นี่อีก 7 วัน เขาอาจจะไปตามเอาเงินคืน หลังจากนั้นจึงจะไปนรกสวรรค์ตามหลักของศาสนา

Leave a Comment