วันที่ 7 เม.ย. 68 ที่สถานีตำรวจนครบาลโคกคราม พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายฮอต กระโดดจากชั้น 3 ของ สน. ภายหลังสอบปากคำก็ว่า 1 ชั่วโมง จากกรณีที่มีผู้เสียหายออกมาแฉ ว่า จากการพูดคุยเบื้องต้นในรายละเอียดเชิงลึกต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการไปเจาะลึกมาก เนื่องจากเขาบอกว่ามีทนายและญาติกำลังเดินทางมาจึงได้ไปการพูดคุยผ่อนคลายเฉยๆ ได้มีการสอบถามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ว่าจากเหตุการณ์ที่มีคนไปออกรายการประเด็นต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ซึ่งในรายละเอียดส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ลงลึกกับตัวเขา
เมื่อถามว่าช่วงก่อนเกิดเหตุนั้นเกิดอะไรขึ้น พ.ต.อ.ประภาส เผยว่า เบื้องต้นเขาจะเข้าห้องน้ำ แต่เนื่องจากข้างหน้ามีสื่อมวลชนอยู่ เขาอาจจะยังไม่สะดวกที่จะพูดคุย จึงขอเข้าด้านหลัง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูอยู่ห่างๆ แต่เราไม่ได้ควบคุมตัว เนื่องจากไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในส่วนของเหตุการณ์วันนี้ แต่อาจจะเป็นช่วงที่เราก็คิดว่าเขาน่าจะอารมณ์เย็นลงแล้ว เพราะเราก็พยายามพูดคุยว่าเดี๋ยวแฟนมาก็จะให้พูดคุยกับแฟนและทนายในเรื่องรายละเอียดที่เกิดขึ้นว่าจะต่อสู้ในประเด็นอะไร ซึ่งเขามีสิทธิ์ที่จะต่อสู้หรือโต้แย้งอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่ามีสัญญาณว่าเครียดอะไรหรือไม่ พ.ต.อ.ประภาส ระบุว่า ไม่มี แต่ก็ไม่ได้ยิ้มแย้ม จากบุคลิกที่เห็นและตอนคุมตัวมาเราก้ไม่ได้รู้นิสัยของเขาก่อนอยู่แล้วว่ายิ้มแย้มหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามถึงอาการบาดเจ็บเบื้องต้นนั้น พ.ต.อ.ประภาส เผยว่า กู้ภัยจับเบื้องต้นไม่มีอะไรหัก ยังหายใจอยู่ แต่ไม่มีการตอบสนองหารือพูดคุยกับกู้ภัย ส่วนหลังจากขึ้นรถกู้ภัยไปแล้วตนไม่ทราบว่ามีการตอบสนองอย่างไรบ้าง
เมื่อถามต่อว่าอาจจะเครียดเรื่องหมายจับหรือไม่ พ.ต.อ.ประภาส กล่าวว่า เบื้องต้นต้องตรวจสอบก่อนว่าหมายจับนั้น ศาลต้องการตัวหรือไม่ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ โดยการจะจับคนก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าหมายจับสามารถจับกุมได้หรือไม่ แต่เท่าที่ทราบคือมีหมายจับจริง แต่ก็ต้องเช็คอีกครั้ง เนื่องจากไม่ได้เป็นหมายจับของสถานีตำรวจ ส่วนจะเป็นคดีอะไรนั้นตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่ทราบคร่าวๆ ว่าเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง
ส่วนตัวของนายฮอต รู้ว่ามีหมายจับหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ประภาส ระบุว่า เขาบอกว่าไม่มีคดีอะไรแล้ว เคลียร์หมดแล้ว
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ พ.ต.อ.ประภาส ระบุว่า ในส่วนของรายละเอียดคดี ก็อยู่ที่ผู้เสียหายในการแจ้งความ และเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานจากพนักงานสอบสวนผู้รับแจ้ง ซึ่งแจ้งความที่หน่วยไหน หน่วยนั้นก้น่าจะเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน
