วันนี้ (6 เม.ย. 68) นายฐิติพงศ์ โพธิพรหม หรือ ช่างเบิร์ด หัวหน้าผู้รับเหมาช่วงระบบไฟฟ้าที่ถูกเบี้ยวเงินค่าจ้างที่ปรากฏในคลิปทวงเงินทางโลกออนไลน์ เปิดเผยว่า บริษัท บีแอล จำกัด ของตนเอง เข้าไปทำงานที่อาคารำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ประมาณ 1 ปี ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2567 ถึงมกราคม 2568 โดยทำหน้าที่ดูแลระบบไฟฟ้าทั้งหมดของโครงการ และได้ขนคนงานมาทำงานนี้มากกว่า 80 คน โดยรับทำงาน เพราะเห็นว่าทางตัวแทนของบริษัทให้ความมั่นใจว่า เป็นโครงการใหญ่มีทุนการสร้างหลักพันล้าน และเป็นโครงการของรัฐบาลมีความน่าเชื่อถือ ทำให้ตอนนั้นตนเองเป็นผู้รับเหมาช่วง ต่อจากอีกบริษัทหนึ่ง ที่เข้ามาทำงาน และ บริษัทดังกล่าวก็เป็นผู้รับจ้างช่วงจาก บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และ อิตาเลียนไทย
ในช่วง 1-2 เดือนแรก บริษัทจ่ายเงินตามปกติ แต่ในเดือนมิถุนายน 2567 เริ่มจ่ายเงินไม่ครบตามกำหนด เช่น ต้องจ่ายเดือนละ 500,000 บาท ก็จ่ายเพียง 250,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำไปทบจ่ายในงานหน้า แต่หลังจากนั้นก็เงียบหาย ตนเองพยายามตามเรื่องเงินตลอด แต่บริษัทก็ไม่จ่ายเงิน
นายฐิติพงศ์ กล่าวต่อว่า ตัวแทนของ อิตาเลียนไทย บอกว่าจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างช่วงไปแล้ว แต่ตนเองไม่ทราบว่าจ่ายเงินครบหรือไม่ ที่แน่ๆ คือตนเองยังไม่ได้รับเงินกว่า 3 ล้านบาท ส่วนจะถูกผู้รับจ้างช่วงบิดไม่นำเงินมาจ่ายให้หรือไม่ก็ไม่แน่ใจ เพราะทุกครั้งที่ทวงถามก็บอกว่ายังไม่ได้รับเงินจากผู้รับเหมาช่วงเช่นกัน ทำให้ตนเองต้องแก้ไขปัญหาโดยนำเงินสำรองมาจ่ายลูกน้อง และนำบ้าน รถ ที่ดิน ไปจำนอง เพื่อแบกรับภาระดอกเบี้ย
นายฐิติพงศ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 68 ตนเองและผู้รับเหมาช่วงรายอื่น ไปประท้วงทวงเงินที่อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อพบผู้ว่าการฯ เพราะเป็นวันส่งงาน และต้องการขอความเห็นใจให้ช่วยแก้ไขปัญหา แต่ได้พบแต่แค่ผู้จัดการโครงการ ซึ่งเป็นคนของบริษัทที่ตนรับช่วงต่อมา กับคนของบริษัท อิตาเลียนไทย พร้อมกับ นายหลินหยาง ผู้ควบคุมโครงการ จากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เท่านั้น
ในวันนั้นมีข้อสรุปว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จะจ่ายเงินงวดที่ 23 (งวดสุดท้าย) จำนวน 5,795,613 บาท ให้กับผู้รับเหมาช่วง 6 รายที่ยังไม่ได้รับเงิน โดยตัดเงินของบริษัทที่ตนรับช่วงต่ออมา มาจ่ายผ่านระบบจ่ายเงิน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว รู้สึกผิดหวังมาก เพราะคิดว่าโครงการระดับพันล้านของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะไม่โกงเงิน และไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน เชื่อว่ายังมีผู้รับเหมาช่วงรายอื่น อีกหลายรายที่ยังไม่ได้รับเงินเช่นกัน มูลค่ารวมน่าจะกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อถามถึงสภาพอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ในช่วงที่เข้าไปทำงาน นายฐิติพงศ์กล่าวว่า ได้เห็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และบริษัทจากจีนเข้ามาตรวจงานหลายครั้ง แต่รู้สึกผิดสังเกตที่ผนังตึกมีความเปราะบาง เมื่อตั้งแคมป์ทำงาน แผ่นปูนก็หลุด ด้านในเป็นโพรง ไม่แน่นเหมือนปูนทั่วไป เหมือนปูนไม่ได้หุ้มเหล็ก เมื่อใช้ค้อนตอกก็ไม่ค่อยติด ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร
ไม่รู้ว่าในความโชคร้ายถือเป็นความโชคดีหรือไม่ที่นำคนงานออกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หากยังอยู่ต่อก็อาจจะติดอยู่ในอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)” นายฐิติพงศ์กล่าว
นายฐิติพงศ์ กล่าวอีกว่า วันนี้กลุ่มผู้รับเหมาช่วง นัดรวมตัวเพื่อคุยกับบริษัทผู้จ้างช่วง บริษัท อิตาเลียนไทย และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เพื่อหาข้อสรุปเรื่องเงินที่ติดค้าง หวังเพียงแค่ได้เงินคืน เพราะหลังจากคุยครั้งล่าสุดก็ไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย และที่ผ่านมาได้ไปฟ้องศาลแรงงานและแจ้งความ แต่ก็ไม่มีใครรับเรื่อง
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน