วันศุกร์ที่ 14 มี.ค.68 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2, และพล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์กวาดล้างต่อเนื่อง สายตรวจไซเบอร์ ตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหา ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ และ ไลฟ์สดเปิดเล่นพนันทายเบอร์
สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ให้แต่ละกองบังคับการ มีการการระดมจับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และปราบปรามการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการดำเนินการในทุกๆ เดือน อย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 6 ปฏิบัติการดังนี้
ปฏิบัติการที่ 1 : กก.3 บกสอท.1 จับกุมหนุ่มลอบขายบุหรี่หนีภาษี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนพบว่า มีผู้ลักลอบนำเข้าบุหรี่และจำหน่ายบุหรี่หนีภาษี บริเวณเต็นท์ขายสินค้าไม่มีชื่อ ข้างร้านสะดวกซื้อริมถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้น สามารถจับกุมนายเอกสิทธิ์ หรือ บาส อายุ 30 ปี พร้อมด้วย ของกลางเป็นบุหรี่ต่างประเทศหลายยี่ห้อ จำนวน 28 รายการ จำนวน 71 ชิ้น และเงินสด 1,380 บาท
จึงแจ้งข้อหา ครอบครองยาสูบที่มิได้เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้เกินกว่าห้าร้อยกรัม หรือยาสูบประเภทยาเส้นที่มิได้เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้เกินกว่าหนึ่งกิโลกรัม เว้นแต่เป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่ได้รับใบอนุญาตให้ผลิตยาสูบมีไว้ในโรงอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าทัณฑ์บน มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า(บุหรี่)ที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้า(บุหรี่)ที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน และ ฝ่าฝืนมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติ ศุลกากร พ.ศ.2560 กรณีช่วยซ่อนเร้นช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานําหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
ปฏิบัติการที่ 2 : กก.4 บก.สอท.1 รวบหนุ่มเบญจเพสลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า พบของกลางมูลค่ากว่าแสนบาท สืบเนื่องจาก สายตรวจไซเบอร์ บก.สอท.1 ได้รับการร้องเรียนว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า บริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่ ริมถนนงามวงศ์วาน 25 แยก4 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ร่วมกันวางแผนล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว สุดท้ายสามารถจับกุมนายธีระยุทธ หรือ อั้น อายุ 25 ปี พร้อมด้วยของกลางที่ล่อซื้อ จากนั้นได้ร่วมกันตรวจค้นภายในเพิ่งพักดังกล่าว พบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 400 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท
จึงแจ้งข้อหา ขายหรือให้บริการ บุหรี่ไฟฟ้า (ตาม พร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562) ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 (ของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร)
ปฏิบัติการที่ 3 : กก.2 บก.สอท.2 รวบสาวลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 ได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พบลูกชายของเจ้าบ้านและเป็นสามีของผู้ต้องหาตามหมายจับ จากนั้นได้พบ นางสาวทานตะวัน อายุ 27 ปี นอนพักอาศัยอยู่ภายในห้องนอนของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1710/2568 ลงวันที่ 12 มี.ค.68
ในข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการขายสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้า , น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ) และช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดย ประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร พร้อมทั้งตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าชนิดพร้อมสูบ นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ปฏิบัติการที่ 4 : กก.1 บก.สอท.3 ทลายร้านบุหรี่ไฟฟ้าลอบจำหน่ายหน้าโรงเรียน สืบเนื่องจากสายตรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าพบบุคคลลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้บริเวณสถานศึกษา จึงได้สืบสวนสอบสวน จนสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นห้องพักของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ย่านถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษาจำนวน 2 แห่ง เป็นโรงเรียนเด็กพิเศษที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม และโรงเรียนประถมศึกษาตั้งอยู่ห่างจากร้านประมาณ 200 เมตร ผลการตรวจค้น สามารถจับกุม นายเกียรติศักดิ์ อายุ 45 ปี พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าคละสีคละยี่ห้อ จำนวน 17 ชิ้น และ pod คละสี คละกลิ่นจำนวน 5 ชิ้น จึงแจ้งข้อหา ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย รับไว้โดยประการใดซึ่ง (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า) ของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยเป็นของที่ไม่ผ่านด่านศุลกากร
ปฏิบัติการที่ 5 : กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 รวบวัยรุ่นสร้างตัว ขายบุหรี่ไฟฟ้า บนโซเชียล ยึดของกลางกว่า 500 ชิ้น สืบเนื่องจากสายตรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 ได้ตรวจสอบพบบุคคลในโซเชียลมีเดียมีพฤติการณ์จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ จึงได้ร่วมกันสืบสวน และนำมาสู่การขออำนาจศาลออกหมายค้นห้องแถวของอาคารพานิชย์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่นและขยายผลต่อเนื่องไปยังบ้านพักอีกแห่งในพื้นที่ ม.23 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผลการตรวจค้น สามารถจับกุม นายพัชรพล อายุ 22 ปี ได้พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ จำนวน 532 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท
โดยแจ้งข้อหา ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซื้อรับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรและขายสิน ค้าที่คณะกรรมการกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำ ยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีต่อไป จากปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่หนีภาษีทั้ง 5 ปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 ราย ตรวจยึดของกลางนับพันชิ้น รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดกว่า 1 ล้านบาท
ปฏิบัติการที่ 6 : กก.4 บก.สอท.2 รวบหนุ่มไลฟ์สดรับแทงพนันทายเบอร์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 25 ล้านต่อปี สืบเนื่องจากสายตรวจไซเบอร์ตรวจพบบุคคลไลฟ์สดเล่นการพนันออนไลน์ทายเบอร์ จึงได้ทำการสืบสวน จนสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นและหมายจับได้สำเร็จ ต่อมาได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.8 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นสามารถจับกุม นายวิโรจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1644/2568 ลงวันที่ 3 มี.ค.68 พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นอุปกรณ์สำหรับการไลฟ์สดเล่นพนันทายเบอร์ โทรศัพท์มือถือที่มีข้อมูลการรับแทงพนัน รถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน และ รถยนต์ Honda Jazz จำนวน 1 คัน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ผู้ต้องหาทำมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว โดยเปลี่ยนสถานที่ไลฟ์สดไปเรื่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ต้องหาจะกดถอนเงินสดทุกวัน วันละประมาณ 70,000 บาท ตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารประมาณกว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน รวมเงินหมุนเวียนประมาณ 25 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม ความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่หนีภาษี และการพนันออนไลน์ เป็นประเด็นที่รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังให้ความสำคัญ ตำรวจไซเบอร์จึงเพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนและการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลและหาข้อมูลเชื่อมโยงไปยังระดับผู้ปฏิบัติรายอื่นๆ จนสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยสั่งการ เพื่อเร่งนำตัวผู้ต้องหาทั้งขบวนการมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน