เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย ได้รับแจ้งเหตุ คนใช้อาวุธปืนทำร้ายตัวเอง ที่กระท่อมเฝ้าไร่อ้อย หมู่.5 ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศรีสัชนาลัย เจ้าหน้าที่จิตอาสากู้ภัยเมืองศรีสัชนาลัย และหน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองศรีสัชนาลัย
ที่เกิดเหตุ อยู่ในไร่อ้อย ห่างจากถนนเข้าไป 3 กม. พบเป็นกระท่อม หลังคามุงสังกะสี ยกพื้นสูง 1 เมตร โดยกางมุ้งไว้มีคราบเลือดกระจายเปื้อนมุ้ง เมื่อเปิดออกดูพบศพ ชายวัย 65 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพถูกยิงเข้าปากกระสุนฝังในบริเวณท้ายทอย ริมฝีปากมีคราบเขม่าสีดำ ใกล้กันพบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก มีปลอกกระสุนในรังเพลิง 1 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบปากคำ ญาติ ผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ แขนซ้ายอ่อนแรง มักจะมานอนที่กระท่อมแห่งนี้เป็นประจำ ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้ว ผู้เสียชีวิตมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้าน โดยคู่กรณีสองสามีภรรยา มาเคลียร์ปัญหาเรื่องกล้วยของผู้เสียชีวิตถูกขโมย มีการโต้เถียงกันไปมา ผู้เสียชีวิตโหจึงคว้าปืนยิงใส่ทั้งคู่ ซึ่งยืนโวยวายอยู่หน้าบ้าน จนได้รับบาดเจ็บ
หลังจากนั้น คู่กรณีจึงแจ้งความดำเนินคดีกับผูเสียชีวิต ต่อมา ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก 6 ปี ผู้เสียชีวิตประกันตัวสู้คดี อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็ยังตัดสินจำคุกเช่นเดียวกัน ผู้เสียชีวิตประกันตัวสู้คดีชั้นศาลฎีกา โดยระหว่างนั้น ผู้เสียชีวิตเคยเอ่ยปากกับญาติว่า เดี๋ยวกูก็ไม่อยู่แล้ว จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตอาจเกิดความเครียดเรื่องคดีความ และโรคประจำตัว จึงก่อเหตุโดยใช้เชือกมัดเป็นบ่วงกับไกปืน แล้วอมปากกระบอกปืนไว้ จากนั้น ใช้หัวแม่เท้าเหนี่ยวบ่วงเชือกลั่นไก จบชีวิตดังกล่าว ซึ่งญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุโขทัย รายงาน
