จากกรณีที่ บอย ศิริชัย หัวหน้าวงหมอลำใจเกินร้อย ได้ออกมาโพสต์คลิปผ่านเพจเฟสบุ๊ค เล่าว่า ได้ไปทำการแสดงที่ วัดใน ม.4 ต.ระหาน อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร เมื่อคืนของวันที่ 2 มี.ค.2568 โดย แดนซ์เซอร์ ภายในวงได้รับเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์จากผูัมาชมการแสดงหน้าเวทีหมอลำ หลังดื่มก็เกิดอาการช็อกหมดสติ มีอาการชาไปทั้งตัวเหมือนไม่รู้สึกตัว แต่ยังหายใจ หลังจากนั้นได้เรียกรถโรงพยาบาลในตัว อ.บึงสามัคคี เข้ามารับตัวเป็นการเร่งด่วน ซึ่งแพทย์ก็ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร เนื่องจากอาการของผู้ป่วยวิกฤตมาก โดยแพทย์ได้ระบุว่าร่างกายได้รับสารบางอย่าง
เมื่อสอบถามลูกน้องคนอื่นในวงหมอลำก็ทราบว่าแดนซ์เซอร์คนดังกล่าวได้รับทิปจากผู้ชมหน้าเวที โดยการนำเงินแบงก์พัน พันรอบแก้วเหล้ายื่นให้ดื่ม หลังจากนั้นก็ลงจากเวทีและมีอาการผิดปกติทางร่างกายทันที โดยช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ระหว่างประมาณ 05.00 น. กว่าๆ ของเช้าวันที่ 3 มี.ค.68 ใกล้ทำการแสดงจบแล้ว
ตนในฐานะหัวหน้าวงเคยตั้งกฎกติกาว่าห้ามสมาชิกภายในวงรับทริปดื่มเหล้าหน้าเวที นอกเหนือจากความเหมาะสมแล้ว ก็คือความปลอดภัย นอกจากจะมีบุคคลหลากหลายแล้วก็ยังมีความเสี่ยง จากการรับเหล้ามาดื่ม ซึ่งขณะนี้แพทย์กำลังวินิจฉัยอยู่ซึ่งก็ให้นอนดูอาการ 3 วัน เสียทั้งเวลาเสียทั้งงาน ซึ่งจากกระแสที่หลายคนมองว่าน้องๆ แดนซ์เซอร์มาหาเงินไม่อยากให้อ้างเหตุผลนี้ เพราะมีค่าตัวที่ได้รับ อย่าเห็นแก่เงิน 1 พันบาท ซึ่งยังมีวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่านี้ และสมาชิกวงทุกคนต้องสามารถจัดการตัวเองได้ ไม่อยากให้ไปเสี่ยงอันตรายกับวิธีการแลกรับเงินแบบนี้ จนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับสมาชิกวงตนเองและวงอื่น ๆ
ต่อมา พระมหาอภิชาติ เจ้าอาวาสฯ ได้ส่งคลิปกล้องวงจรปิดภายในวัด ขณะที่หมอลำวงดังกล่าวทำการแสดงใกล้เลิก ช่วงเวลา 05.27 น. เช้าวันที่ 3 มีนาคม 68 พบว่ามี ชาย สวมเสื้อสีขาว อายุประมาณ 35 ปี ได้ยื่นแก้วเหล้าส่งให้กับแดนซ์เซอร์คนดังกล่าวดื่ม ซึ่งก็ตรงกับเวลาที่แดนซ์เซอร์บอกว่ารับแก้วบริเวณนั้น ซึ่งหลังจากนี้จะให้คณะกรรมการวัดรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยเบื้องต้นทราบแล้วว่าเป็นใคร
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เพจเฟซบุ๊ก คณะหมอลำใจเกินร้อย ได้โพสต์อัปเดตอาการของ น้องปอนด์ แดนเซอร์ในคณะ ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่คุณหมอโรงพยาบาลกำแพงเพชร ยังให้รักษาตัวต่อถึงวันที่ 6
ซึ่งสรุปสารที่ผสมมากับเครื่องดื่มนั้นเป็นสารปลุกเซ็กซ์และก็มีปริมาณเกินกว่าร่างกายสามารถรับได้จึงทำให้เกิด effect ดังกล่าว ฝากเป็นบทเรียนสำหรับคนที่ทำงานอาชีพอย่างพวกเราต้องระมัดระวัง คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ดูหน้าดูหลัง เข้าใจว่าอยากได้รางวัลแต่มันเสี่ยงต่อสุขภาพซึ่งเราทำงานทุกวันเดินทางทุกวันอากาศก็ร้อนลำพังเฉพาะแอลกอฮอล์ก็ทำลายสุขภาพมากพอแล้ว
ในกรณีนี้ที่ใส่สารอันตรายมาอีกยิ่งหนักไปกันใหญ่ ยังดีที่กรณีของน้องปอนด์ส่งตัวเข้ารักษาได้ทัน ถ้าเกิดว่าเกิดความเสียหายหรืออันตรายถึงแก่ชีวิต จะรับผิดชอบกันยังไง แล้วก็ขอวอนไปถึงบุคคล ที่ใส่สารอันตรายให้น้องในวันนั้นนะครับอย่าไปทำกับใครอีก ถ้าไม่มีสิ่งที่ดีงามมอบให้หรือรางวัลสิ่งใดให้กันก็อย่านำสิ่งที่มันจะก่อให้เกิดอันตรายแบบนั้นให้กันอีกนะครับโดยเฉพาะน้อง ๆ แดนซ์เซอร์เขาก็หาเช้ากินค่ำ
