ป.ป.ส.ขยายผลจับผู้ต้องหาระดับสั่งการในเครือข่ายส่งไอซ์ ข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นที่พัก เตรียมส่งต่อปลายทางประเทศที่ 3 พร้อมยึดทรัพย์กว่า 23 ล้านบาทไว้ตรวจสอบ รถยนต์ 2 คัน นาฬิกาหรู สินค้าแบรนด์เนม อาร์ตทอย คอนโดมิเนียม และกิจการร้านกัญชา มูลค่ากว่า 23 ล้านบาท เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เข้าตรวจยึดได้ที่บ้านพักอาศัยและกิจการร้านค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังเจ้าหน้าที่ขยายผลจากขบวนการลักลอบส่งไอซ์ จำนวนกว่า 1.6 ตัน ซุกซ่อนในม้วนผ้าฝ้าย 33 ม้วน ส่งออกไปยังประเทศที่สาม
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สามารถจับได้เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมผู้ร่วมกระทำความผิดได้ 5 คน เป็นระดับลูกจ้างเครื่อข่าย จึงเป็นสาเหตุที่ให้ เจ้าหน้าที่ขยายผล รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ 4 คน สัญชาติไทยทั้งหมด เป็นถึงระดับผู้สั่งการ และตัวการใหญ่ ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นในเป้าหมาย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สามารถจับผู้ต้องหาได้ 1 คน นายปัญจกิตต์ หน้าที่บ้านพักอาศัยย่านพระราม 3
นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ ภายในห้องพักอาศัย พบเอกสารการส่งออกพัสดุกัญชาไปยังประเทศอังกฤษ ถึง 3 ครั้ง มีหลักฐานเชื่อว่านายปัญจกิตต์ ผู้ต้องหา เป็นถึงบุคคลสำคัญระดับผู้สั่งการ
พลตำรวจโทภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่านอกจากทรัพย์สินที่ยึดได้ในวันนี้ อยากตรวจพบเส้นทางการเงิน เครือข่ายดังกล่าวได้นำทรัพย์สินไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ประเภทบิตคอยน์ และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งยอมรับว่ายังเป็นปัญหาที่เจ้าหน้าที่ยังไม่มีองค์ความรู้ และอุปกรณ์ในการตรวจยึดสกุลเงินดิจิตอลเหล่านี้ แต่ปัจจุบันได้เริ่มที่จะมีการพัฒนาเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้รวมถึงจะหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการยึดทรัพย์สินเหล่านี้ จากเครือข่ายค้ายาเสพติด
ข้อมูลการสืบสวนยังพบอีกว่ากระบวนการนี้มีการนำไอซ์เข้ามาจากประเทศทางฝั่งทวีปแอฟริกา ตรวจพบว่ามีปลายทางในประเทศอินเดีย แต่เนื่องจากมีปัญหาในการลักลอบขนส่งเข้าประเทศ จึงใช้ประเทศไทยเป็นจุดพักไอซ์ โดยมีกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ให้การช่วยเหลือ และอยู่ในขบวนการดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการกระทำเพื่อการค้า และความผิดสมคบการฟอกเงิน โดยจะเร่งติดตามผู้ต้องหาอีก 3 คน มาดำเนินคดี และจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน