เปิดปฏิบัติการ บุกรวบปลัดอำเภอนอกแถว ทลายเครือข่ายกินหัวคิวบัตรชมพู

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ  ได้ร่วมกันจับกุม นายบุญญฤทธิ์ฯ อายุ 56 ปี ปลัดอำเภอสันทราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 5 ที่ 21/2568 ลง 27 มิ.ย.68 ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าขบวนการและตัวการสำคัญในปฏิบัติการขูดรีดครั้งนี้ กระทำความผิดฐาน  “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ,147 เหตุเกิด ศูนย์บริหารการทะเบียน ภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด  จังหวัดเชียงใหม่

สถานที่จับกุม บริเวณศูนย์บริหารการทะเบียน ภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

สืบเนื่องจาก บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก สำนักงาน ป.ป.ช. และ สำนักงาน ป.ป.ท.กล่าวคือผู้เสียหาย ซึ่งเปิดบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในพื้นที่ และเป็นตัวแทนรับดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงาน (บัตรชมพู)  ได้ยื่นคำร้องขอนัดคิวทำบัตรฯ ต่อ สนง.ทะเบียนภาค 5 จำนวน 600 ราย แต่ไม่เคยได้รับคิวทำบัตร

ต่อมาได้รับทราบจากนาง เอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นกลุ่มนายหน้ารับทำบัตรฯเช่นกัน ได้กล่าวว่าจะต้องเสียค่าหัวคิวให้นายบุญญฤทธิ์ฯ รายละ 200 บาท โดยแบ่งเป็นค่าธรรมเนียมบัตร จำนวน 80 บาท ส่วนอีกจำนวน 120 บาท เป็นค่าใช้จ่ายให้ ปลัดบุญฤทธิ์ฯ เป็นค่าหัวคิว

หลังจากนั้น ผกก.4 บก.ปปป.ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวน ฯ พร้อมด้วย จนท. ป.ป.ช. และ จนท.ปปท. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่า มีกลุ่มตัวแทนที่รับดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงาน (บัตรชมพู) จริง สอบถามผู้เกี่ยวข้องก็ยืนยันว่า กลุ่มตัวแทนนายหน้ารายอื่นๆ ก็จะต้องจ่ายเงินค่าหัวคิวให้แก่ นายบุญญฤทธิ์ฯ เช่นกัน ซึ่งในแต่ละวันจะมีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียน ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย คิดเป็นเงินค่าหัวคิววันละ 200,000บาท

เปิดปฏิบัติการ บุกรวบปลัดอำเภอนอกแถว ทลายเครือข่ายกินหัวคิวบัตรชมพู

เปิดปฏิบัติการ บุกรวบปลัดอำเภอนอกแถว ทลายเครือข่ายกินหัวคิวบัตรชมพู

เปิดปฏิบัติการ บุกรวบปลัดอำเภอนอกแถว ทลายเครือข่ายกินหัวคิวบัตรชมพู

โดยขบวนการนี้มีพฤติการณ์เรียกรับเงินค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการในการจัดทำบัตรชมพู (ทะเบียนประวัติคนต่างด้าว) สูงถึง รายละ 200 บาท ทั้งที่อัตราค่าธรรมเนียมตามกฎหมายกำหนดไว้เพียง 80 บาท ต่อรายเท่านั้นและมีการสร้างระบบ ผูกขาดโควตา โดยหากตัวแทนรับจ้างรายใดไม่ยอมจ่ายเงินส่วนต่างที่เรียกเก็บก็จะไม่สามารถจองคิวเพื่อนำแรงงานเข้าระบบได้ จากข้อมูลพบว่า ศูนย์ดังกล่าวมีศักยภาพในการทำบัตรให้คนต่างด้าวได้ประมาณ วันละ 1,000 ราย ซึ่งหมายถึงเงินนอกระบบที่สะพัดในขบวนการนี้มีมูลค่ามหาศาล พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( บก.ปปป. ) จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ออกหมายจับผู้ต้องหา และขอหมายค้น จำนวน 1 จุด จนวันนี้ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. , ป.ป.ท.วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา และเข้าค้นจุดต้องสงสัย พร้อมกัน 1 จุด ในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน

Leave a Comment