เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลาน คุมตัวนายอาเซีย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุ ใช้ปืนลูกซองยิงนางนิตยาหรือนิด อ่ำหลุย อายุ 53 ปี เสียชีวิต บริเวณบันไดหน้าบ้านพัก หมู่3 บ้านคลองมดแดง ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยจุดเกิดเหตุ นายปลิว อายุ 52 ปี พี่ชายผู้ต้องหา และเป็นสามีของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเกิดเหตุตนได้คุยกับภรรยาว่าจะไปยืมเงินพ่อ จากนั้นได้เดินไปที่บ้านของพ่อที่มีน้องชายอาศัยอยู่ ต่อมาได้มีปากเสียงทะเลาะกัน เรื่องของการทำกับข้าวให้แม่กิน เพราะแม่กินเผ็ดไม่ได้ ซึ่งตนก็ได้โต้เถียงกับน้องว่าก็ทำให้กินตลอด บางครั้งแม่ก็ทำกินเองบ้าง
ทำให้น้องชายไม่พอใจ ที่มาเห็นว่ากับข้าวของแม่ มีแต่ไข่ทอดอย่างเดียวทุกครั้ง หลังจากนั้นน้องตนได้บอกว่าเดี๋ยวกูจะเอาปืนไปยิงเลย แต่ก็ไม่คิดว่าน้องชายจะเอาปืนมายิงเมียตนเองจริงๆ หลังจากได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ตนก็รีบวิ่งมาที่บ้าน พบว่าเมียของตนล้มจมกองเลือดแล้ว ก่อนจะเข้าแย่งปืนกับน้องชายตน
ซึ่งเมียของตนไม่ได้ทะเลาะอะไรกับน้องชายแต่อย่างใด ส่วนตนก็ไม่เคยทะเลาะอะไรกับน้องชาย ที่ผ่านมาก็มาดูเรื่องกับข้าวในตู้เย็น ให้แม่อยู่บ่อยครั้ง น้องชายไม่ได้มายุ่งอะไร เพราะอยู่บ้านคนละหลัง กระทั่งวันเกิดเหตุ น้องชายดื่มเหล้าเมามาจึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
โดยหลังจากนี้ ตนก็จะเตรียมตัวเดินทางไปร่วมงานศพของเมียที่ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งก็จะนำรถเก๋งของเมียไปคืนให้กับลูกชายฝั่งเมียด้วย (ลูกติด) ตนพูดอะไรไม่ออก หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่าน้องชายตนเป็นคนอารมณ์ร้อนด้วย โดยอยู่กินกับเมียมาปีกว่าแล้ว
ขณะที่ นางเกิน อายุ 77 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 19.30 น.วันที่ 22 มิ.ย 2568 ตนได้เข้ามุ้งนอนกับหลานแล้ว และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงได้ตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีใครตอบกลับมา จนต้องลุกออกมาดู พบว่าลูกสะใภ้ได้นอนจมกองเลือด ที่บริเวณบันไดขึ้นบ้านแล้ว จึงร้องเรียกให้ลูกและชาวบ้านมาช่วย และเห็นลูกชายทั้งสองคนแย่งปืนกัน
ยอมรับว่าลูกชายคนเล็กเป็นคนอารมณ์ร้อน ส่วนเรื่องการทำกับข้าวให้ตนกินนั้น ตนยอมรับว่าก็ทำกินเองบ้าง และลูกสะใภ้ทำให้กินบ้าง ไม่มีความบกพร่องในเรื่องนี้เลย ซึ่งก็น่าจะเกิดจากอาการเมาเหล้าจนขาดสติทำให้เกิดเหตุดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุก็ได้โทรไปคุยกับลูกติด 2 คน ของผู้เสียชีวิตแล้ว ก็กำลังเดินทางมา ตนไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในบ้าน
ทางด้าน นายเพชร อายุ 54 ปี พี่ชายคนโต เล่าว่า ยอมรับว่าน้องชายที่ก่อเหตุ เป็นคนอารมณ์ร้อน วู่วาม ซึ่งทุกครั้งเวลาดื่มเหล้า ก็จะคอยห้ามกันตลอด เป็นคนที่คิดอะไรปุ๊บปั๊บทำเลย ซึ่งที่ผ่านมาพี่ชายคนกลาง และน้องชายก็มีโต้เถียงกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นทะเลาะรุนแรงขนาดนี้ ส่วนเรื่องกับข้าวที่ทำให้แม่กิน บางครั้งแม่ก็ทำเองบ้าง แล้วก็มีลูกสะใภ้และพี่ชายทำให้กินตลอด ซึ่งก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนเรื่องของคดีก็คงจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป
โดยนายอาเซีย สารภาพว่าเหตุผลในการก่อเหตุครั้งนี้ เกิดจากโมโหที่พี่ชายและพี่สะใภ้ ไม่ยอมทำกับข้าวดีๆให้แม่กิน ซึ่งตนยอมรับผิด และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนก่อเหตุ ตนอยู่ในอาการเมาสุราจนขาดสติ
ภายหลังทำแผนเสร็จ นายอาเชีย ได้เดินเข้าไปหาพ่อและแม่ บริเวณโต๊ะนั่งใต้ต้นไม้หน้าบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งพ่อก็ให้กำลังใจ โดยบอกลูกว่าทำผิด ก็ต้องยอมรับผิด ให้รับสารภาพไปติดคุกไม่ถึง 20 ปี ซึ่งลูกชายผู้ก่อเหตุก็ได้บอกว่า แล้วใครจะทำกับข้าวให้พ่อกิน หากมีโอกาสตนจะออกมาทำกับข้าวให้พ่อกินเหมือนเดิม พร้อมกับร้องไห้เสียใจต่อหน้าพ่อและแม่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุกลับไปคุมขังและสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.คลองลาน ซึ่งจะเตรียมส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้ โดยขณะนี้ศพของผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการผ่าชันสูตรและจะเดินทางถึงบ้านเกิดของผู้ตายที่ หมู่ 7 บ้านเสาหิน ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ในช่วง 2 ทุ่มคืนนี้ โดยลูกชายของผู้เสียชีวิตกำลังเตรียมรอรับศพอยู่