วันนี้ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1. ,พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 จึงสั่งการให้ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นำโดย พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เร่งสืบสวนจับกุมได้ร่วมกันจับกุม ดังนี้
ผู้ถูกจับที่ 1. นายพงศ์พันธุ์ หรือเพชร สุยะ อายุ 21 ปี (นั่งข้างคนขับ,คนยิง)
ผู้ถูกจับที่ 2. นายมนตรี หรือแสบ คงแสงศักดิ์ อายุ 29 ปี (นั่งห้องผู้โดยสารฝั่งซ้ายมือ)
ผู้ถูกจับที่ 3. นายจีรตะ หรือมาร์ก สุขรอด อายุ 32 ปี (นั่งห้องผู้โดยสารฝั่งขวามือ)
ผู้ถูกจับที่ 4. นายชาตรี หรือตรี พงษ์ภมร อายุ 36 ปี (นั่งห้องเก็บของด้านหลัง)
และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 1 คน ชื่อนายณรงค์ศักดิ์ หรือมอส พันธ์ศรี อายุ 32 ปี (คนขับ)
โดยต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชุน”ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32, 33, 80, 83, 91, 288, 371 ,376 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ,พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3 ,พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2522 มาตรา 5, 7 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ละวันที่ 21 ต.ค. 2519 ข้อ 3, 6, 7
พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้
1.อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ Smith Wesson ขนาด .38 นิ้ว หมายเลขทะเบียนปืน กท 845770 จำนวน 1 กระบอก
2. รถยนต์เก๋งห้าประตู ยี่ห้อ Honda รุ่น HRV สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ษน 225 กทม. จำนวน 1 คัน (รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ)
3. แผ่นป้ายทะเบียน ฎธ 5142 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แผ่น (สวมใส่วันก่อเหตุ)
4. เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 33 กล่อง (แต่ละกล่องบรรจุกระสุนจำนวน 20 นัด) รวมเครื่องกระสุนปืนจำนวน 660 นัด
5. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 69 นัด รวมเครื่องกระสุนปืนทั้งหมด จำนวน 729 นัด
พฤติการณ์ในการจับกุม หลังจากได้รับแจ้งเหตุในคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าคนร้ายใช้รถยนต์เก๋งห้าประตู ยี่ห้อ Honda รุ่น HRV สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฎธ 5142 กทม. ในการ ก่อเหตุ และทราบว่ากลุ่มของคนร้ายได้เช่าบ้านพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 168/18 ม.1 ต.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเข้าทำการตรวจค้น
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ได้จับกุมตัว นายมนตรี หรือแสบ คงแสงศักดิ์ อายุ 29 ปี นายจีรตะ หรือมาร์ก สุขรอด อายุ 32 ปี นายชาตรี หรือตรี พงษ์ภมร อายุ 36 ปี จากการซักถาม/ขยายผล ทราบว่ามีผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีกจำนวน 2 คน คือนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชร สุยะ (คนที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียหาย) และนายณรงค์ศักดิ์ หรือมอส พันธ์ศรี (คนขับรถ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปที่บ้านพักของ นายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ แต่ไม่พบตัวนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ จากการตรวจค้นบ้านพักพบเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. และเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. รวม 729 นัด จึงได้ตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไว้
ต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัวนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ(คนยิง)ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันไปตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ Smith Wesson ขนาด .38 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ โดยมีนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดบริเวณป่าริมถนนภายในซอยหลังปั๊มน้ำมันพีที สาขาวังน้อย 4 (ถ.พหลโยธิน กม.59) และไปตรวจยึดรถยนต์เก๋งห้าประตู ยี่ห้อ Honda รุ่น HRV สีดำ ขณะตรวจยึดติดแผ่นป้ายทะเบียน ษน 225 กทม. ที่บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 26/4 ม.2 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ สมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึด จากการตรวจค้นรถยนต์ พบแผ่นป้ายทะเบียน ฎธ 5142 กทม. อยู่ภายในรถ (ซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่ใช้ติดรถในวันเกิดเหตุ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ทะเบียนจริงของรถคันที่ใช้ก่อเหตุคือ 9 กญ 1112 กทม.) นายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ รับว่ารถยนต์คันดังกล่าวคือรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ในวันก่อเหตุ โดยหลังจากก่อเหตุได้เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียน และได้นำมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ อ้างว่า ในวันเกิดเหตุถูกรถคู่กรณีขับปาดหน้าและถูกวัตถุของแข็งปาใส่รถของตนเอง
ในส่วนของนายณรงค์ศักดิ์ หรือมอส พันธ์ศรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนี สภ.วังน้อย จะได้ดำเนินรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ ในข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชุน และจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน