วันที่ 20 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.), พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในคดีผลิตและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ยึดของกลางจำนวนมาก ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าสำเร็จรูป น้ำยา อุปกรณ์การผลิต และสารตั้งต้น ซึ่งบางส่วนมีส่วนผสมของสารเสพติด บุกทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ย่านนวลจันทร์-รามอินทรา
การปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มจากการที่ พ.ต.ท.ชานนท์ บรรพกาญจน์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษฯ ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญาและศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นบ้าน 2 หลัง ได้แก่ บ้านเลขที่ 43 ซอยประเสริฐมนูญกิจ 37 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร และบ้านเลขที่ 55/75 หมู่บ้านคาซ่าวิลล์ รามอินทรา – วงแหวน 2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558” และ “ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ของกลางที่ตรวจยึดได้จากทั้งสองจุดมีจำนวนมาก อาทิ บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งกว่า 10,000 ชิ้น, กล่องสำหรับบรรจุหัวพอดกว่า 6,250 ชิ้น, โทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, และอุปกรณ์สำหรับการแพ็กสินค้า ขยายผลสู่แหล่งผลิตย่านวัชรพล พบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมสารเสพติด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. โดย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตร์ ผู้กำกับการสืบสวน 2ฯ ได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 78/191 และบ้านเลขที่ 78/197 หมู่บ้านซิตี้เซนส์ วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จากการตรวจค้นนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 ราย
โดยพบของกลางสำคัญคือ เครื่องกวนส่วนผสม, สารเคมีชนิดเกล็ดขาวขุ่น (30 กรัม), น้ำยาทำควัน, น้ำยาผสมกลิ่น, น้ำยากลีเซอรีน, แท่นปั๊มหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, คอยร้อน, หัวเปล่าสำหรับใส่น้ำยา, กลิ่นผสมอาหาร, หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ผลิตเสร็จแล้ว, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ผสมเสร็จแล้ว รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 50 อัน และกล่องบรรจุหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 20,000 ชิ้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ผลิตมีการผสมของยาเสพติด (พ้อตเค) ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกตั้งข้อหาเช่นเดียวกับผู้ต้องหากลุ่มแรก คือ “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558” และ “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 โดยเฉพาะในส่วนของการผลิตน้ำยาที่ผสมสารเสพติดนั้น จะมีการขยายผลดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าครั้งสำคัญของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยเฉพาะการตรวจพบการผสมสารเสพติดในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพของผู้บริโภค
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน