เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศพยากรณ์อากาศล่วงหน้า 24 ชั่วโมง โดยระบุว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขณะที่ภาคเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่
ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมแนะนำให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรสภาพอากาศลักษณะนี้มีสาเหตุจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
ขณะเดียวกัน พื้นที่ทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอาจสูงเกิน 3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงราว 2 เมตร เรือเล็กในทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน และชาวเรือทั่วไปควรเพิ่มความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ในขณะเดียวกัน พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำและขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13-14 มิถุนายน 2568 แม้พายุนี้จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อประเทศไทย แต่ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปพื้นที่ใกล้เคียงตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก :
กรมอุตุนิยมวิทยา
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์
ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์
ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี
สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก :
กรมอุตุนิยมวิทยา