ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ชาย อายุ 46 ปี ซึ่งพิการเป็นใบ้และหูไม่ค่อยได้ยิน มีอาชีพขายลอตเตอรี่ที่คำชะโนด ได้ร้องความเป็นธรรมว่า ถูกชาย อายุ 29 ปี หลอกให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท และเลสข้อมือทองคำหนัก 2 บาท รวมเป็น 5 บาท ใส่พานหมั้น เพื่อจะส่งรูปถ่ายให้แม่ดูว่ารักแท้มีอยู่จริง หลังจากทำพิธีหมั้นแล้ว จากนั้น 1 ปีจะมาทำพิธีสู่ขอแต่งเป็นเรื่องเป็นราว รักครั้งนี้จริงใจไม่จริงโจ้แน่นอน
โดยพิธีหมั้นทำเงียบๆ เพียง 2 คน คือตนและฝ่ายชาย ที่ห้องเช่าของฝ่ายชายใน อ.บ้านดุง เมื่อวันที่ 20 เม.ย.68 ที่ผ่านมา โดยในพานหมั้น มีดอกไม้ เงินสดจำนวน 8,000 บาท วางเรียงใส่พานเงิน มีสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาททเลสข้อมือทองคำหนัก 2 บาท รวมมูลค่าประมาณ 250,000 บาท
จากนั้นฝ่ายชายก็ถ่ายรูปส่งให้แม่ดู แต่พอพิธีหมั้นเสร็จ ฝ่ายชายขอทองใส่ โดยอ้างว่าใส่เพื่อความเป็นสิริมงคลเดี๋ยวจะคืน แต่สุดท้ายไม่ยอมคืนทองให้ พอตนทวงถามกลับเอาทองปลอมมาคืนให้ เมื่อไปทวงถามถึงที่ทำงานอีกครั้งก็ถูกทำร้ายร่างกายอาการปางตาย
ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านดุง เพื่อให้ดำเนินคดีกับฝ่ายชาย เพราะอยากได้ทองคืน เพราะเป็นเงินที่ขายลอตเตอรี่ เก็บหอมรอมริบมาหลายปีกว่าจะซื้อทองมาได้
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับผู้เสียหาย พร้อมกับนำแชตที่พูดคุยกับฝ่ายชายให้ดู โดยในแชตก็จะมีคำพูดรักๆ หลังจากหมั้นแล้ว 1 ปี แต่งงานแน่นอน บางแชตมีข้อความห่วงใย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ มีภาพถ่ายคู่กันอย่างหวานชื่น แต่พอเกิดเรื่องก็มีการด่ากัน โดยฝ่ายชายบอกไม่คืนทองให้แล้ว เอาทองจริงไปแปรสภาพแล้ว เจอกันในชั้นศาลแล้วกัน
ทั้งนี้ผู้เสียหาย เผยว่า ตนรู้จักฝ่ายชายมาเกือบ 1 ปี ไปมาหาสู่กัน ไม่มีเงินก็โอนให้ใช้จ่าย แต่พอเกิดเรื่อง ฝ่ายชายไม่คืนทองแถมยังทำร้ายตนอีก ตนรู้สึกเสียใจ และอยากได้สร้อยคอทองคำ เลสทองคำคืน ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านญาติผู้เสียหาย บอกว่า วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายเดินสะบักสะบอมเข้ามาที่ร้าน ใช้ภาษามือบอกว่าถูกทำร้ายร่างกาย ตนเองจึงสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น จนรู้ว่าเขาถูกแฟนหนุ่มทำร้ายมา สาเหตุเพราะไปทวงเอาทอง 5 บาทจากพานหมั้นคืน ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเห็นว่าคบกันเป็นแฟนได้ประมาณเกือบปี หลังจากรู้เรื่องตนก็พาไปแจ้งความ ตำรวจก็เรียกมาไกล่เกลี่ยก่อน พอฝ่ายชายมาพูดคุยด้วย ก็ไม่ยอมคืนลูกเดียว บอกว่าทองของจริงเอาไปแปรสภาพหมดแล้ว ไปเจอกันที่ศาลแล้วกัน
เท่าที่ทราบฝ่ายชายเอาทองไปขายแล้วไปสร้างบ้านให้เมียคนใหม่ที่คบกันได้ 2 เดือน และทราบว่าเขาจะหลอกผู้หญิงไปทั่วถ้ามีเงิน แม้กระทั่งเกย์เขาก็คบถ้ามีเงินให้เขา ตนก็สงสารผู้เสียหาย แม้เขาจะเป็นใบ้ เป็นคนพิการก็ยังรู้จักทำมาหากิน ไม่งอมืองอเท้า สร้อยคอและเลสทองคำเขาเก็บเงินจากการขายลอตเตอรี่กว่าจะซื้อได้ อยากให้ฝ่ายชายหามาคืนจะดีกว่า จะได้ไม่มีเรื่องคดีต่อกัน
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังฝ่ายชาย บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น อยากจะบอกว่า ผู้เสียหายเป็นคนขอเฟซบุ๊กตนและทักมาหาตนก่อน บอกว่า ชอบตน ช่วงแรกทักมาขอซื้อบริการตนด้วย ช่วงหนึ่งตนไม่ได้คุย เขาก็ซื้อข้าวมาฝาก มาหาที่ห้อง แถมซื้อเค้กวันเกิดถือมาให้ที่ห้องด้วย คือเป็นสายเปย์ ทุ่มทุกอย่าง แต่เรื่องหมั้นตนไม่เคยทำ และทองที่ว่าตนไม่ให้คืน เพราะเขาให้ตนเอง ตนไม่ได้ยืมมาใส่งานหมั้นตามที่เขากล่าวอ้าง
ส่วนเรื่องทองปลอมที่ว่าตนคืนให้ เขาไปแย่งเอง ในกระเป๋าของตนมีทั้งทองจริงและทองปลอม ส่วนเรื่องทำร้าย เขาจะใช้มีดจี้คอตนก็เลยกระทบกระทั่งกัน เจ็บทั้งสองฝ่าย ตนฝากถึงผู้เสียหายว่า ไปเจอกันที่ศาล ทุกอย่างให้ทนายจัดการแล้ว และตนก็จะไปแจ้งความ ที่ผู้เสียหายเอารูปตนไปประจาน