รวบหนึ่งในแก๊งบัญชีม้า ตุ๋นทรัพย์พลตรี เสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท

วันที่ 23 พ.ค. 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.นัฐพล  ทะเลน้อย สว.กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายอาทิตย์ฯ อายุ 26 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1358/25667 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกัน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

รวบหนึ่งในแก๊งบัญชีม้า ตุ๋นทรัพย์พลตรี เสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท

โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำในไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

รวบหนึ่งในแก๊งบัญชีม้า ตุ๋นทรัพย์พลตรี เสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท

สืบเนื่องจากปี พ.ศ.2566 ผู้เสียหายซึ่งเป็นนายทหารยศพลตรี ขณะพักอยู่บ้านพักได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามายังมือถือของผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่ามีคนร้ายซึ่งเป็นผู้ต้องหาในข้อหาคดีฟอกเงิน และค้ายาเสพติด โดยได้นำชื่อนามสกุลของผู้เสียหายไปใช้เปิดบัตรเครดิตกับทางธนาคารพร้อมทั้งแจ้งกับผู้เสียหายว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นผู้รับแจ้งเรื่องติดต่อไปเพื่อพูดคุยรายละเอียดดังกล่าว จากนั้นได้มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามายังโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย โดยมิจฉาชีพได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งกับผู้เสียหายว่าจะทำการอายัดบัญชีการทำธุรกรรมทั้งหมด พร้อมทั้งใช้บัญชีไลน์ติดต่อเข้ามาทางแชท ในแอปพลิเคชันไลน์ของผู้เสียหาย โดยให้ผู้เสียหายพิมพ์ชื่อนามสกุล พร้อมบัญชีธนาคารที่ใช้อยู่ส่งเข้ามาทางไลน์ดังกล่าว จากนั้นมิจฉาชีพทำทีโทรวิดีโอคอลเพื่อขอดูสมุดบัญชีซึ่งผู้เสียหายมีอยู่ 2 บัญชี ผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวก็ได้ส่งภาพถ่ายเป็นรูป ผู้ชาย

พร้อมข้อความว่า หมายจับของผู้ต้องหาข้อหาคดีฟอกเงิน และค้ายาเสพติด สภ.เมืองตาก.. พร้อมภาพถ่ายเป็นรูปหนังสือเกี่ยวกับการอายัดการทำธุรกรรมทางการเงิน ของสภ.เมืองตาก ด่วนที่สุด โดยมีชื่อของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกลาง อยู่ท้ายหนังสือมาให้ผู้เสียหาดู ต่อมามิจฉาชีพได้วิดีโอคอลมาอีกครั้ง อ้างว่าจะให้ผู้เสียหายคุยกับ ผกก. สภ.เมืองตาก ซึ่งระหว่างรอสายนั้น มิจฉาชีพแจ้งว่า ผกก. ได้มอบหมายให้ตำรวจอีกคนเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และวางสายโทรศัพท์ไป ต่อมาผู้ใช้บัญชีไลน์ก็ได้ติดต่อมาทางวิดีโอคอล ซึ่งเป็นเสียงผู้หญิงและคุยสนทนากับผู้เสียหายอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ และได้สอบถามผู้เสียหายว่ามีสมุดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารอื่น ๆ อีกไหมจะได้ดำเนินการตรวจสอบทั้งหมดไปทีเดียว

รวบหนึ่งในแก๊งบัญชีม้า ตุ๋นทรัพย์พลตรี เสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท

จากนั้นผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวจึงได้แจ้งให้ผู้เสียหาย เตรียมสมุดบัญชีไว้ให้พร้อม จะติดต่อกลับมาอีกครั้ง ต่อมาผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวก็ติดต่อมายังผู้เสียหาย โดยวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหายและสอบถามว่ามีแอปพลิเคชันธนาคาร ในมือถือหรือไม่จะได้ให้ทำการโอนเงินเข้ามาในบัญชีธนาคารเพื่อทำการตรวจสอบความเชื่อมโยงกับคดีฟอกเงิน แต่ผู้เสียหายไม่มีแอปพลิเคชันธนาคารดังกล่าว เนื่องจากไม่เคยทำการโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือจากนั้นผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวแจ้งว่า จะต้องทำการติดตั้งแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือให้เรียบร้อย มิฉะนั้นจะต้องตรวจสอบไม่ได้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจของเสียหาย ว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จึงได้เดินทางไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาโชคชัย 4 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารฯ เพื่อทำการติดตั้งแอปพลิเคชันในมือถือเพื่อจะได้ทำการธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน ต่อมาผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวก็ได้ส่งข้อความทักแชทสนทนามาแจ้งว่า หากพร้อมแล้วรบกวนแจ้งด้วย จะได้เตรียมเอกสารรอนะคะ

จากนั้นผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวก็ได้วิดีโอคอลมาอีกครั้งและได้แจ้งให้ผู้เสียหายทำการโอนเงินที่มีทั้งหมดในแต่ละบัญชีธนาคาร โอนเข้ามาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบ โดยแจ้งอีกว่าเมื่อทำการตรวจสอบเสร็จแล้วจะดำเนินการโอนเงินกลับคืนมาให้ทั้งหมด จากนั้นผู้เสียหายจึงได้ทำการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางแอปพลิเคชันมือถือตามที่ผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวได้บอกขั้นตอนให้ผู้เสียหายทำตาม ซึ่งผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวได้แจ้งให้ผู้เสียหายทำการโอนเงิน

ผู้เสียหายได้ทำการโอนเงินไปยังบัญชี นายอาทิตย์ฯ (ผู้ต้องหา) จำนวน 2 ครั้ง และบัญชีอื่นอีก 3 ครั้ง ซึ่งการโอนเงินรวมจำนวน 5 ครั้งดังกล่าวข้างต้น รวมเป็นความเสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท ต่อมาเมื่อถึงกำหนดที่บุคคลดังกล่าวอ้างว่า จะทำการโอนเงินทั้งหมดคืนให้ผู้เสียหายเมื่อตรวจสอบเสร็จ แต่ผู้เสียหายไม่ได้รับการคืนเงินตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำการโอนเงินเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่มาหลอกลวงต่อไป

รวบหนึ่งในแก๊งบัญชีม้า ตุ๋นทรัพย์พลตรี เสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า นายอาทิตย์ฯ ได้ทำงานและพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงได้ออกเดินทางไปทำการสืบสวนเฝ้าสังเกตการณ์จนพบบุคคล ที่มีลักษณะตำหนิ และรูปพรรณตรงกับบุคคลในหมายจับ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจโดยยื่นบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ ให้บุคคลดังกล่าวดูจนทราบและเข้าใจดี

รวบหนึ่งในแก๊งบัญชีม้า ตุ๋นทรัพย์พลตรี เสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท

เจ้าพนักงานตำรวจได้แสดงหมายจับให้ นายอาทิตย์ฯ ผู้ถูกจับกุมหรือผู้ต้องหาดูจนทราบและเข้าใจดีแล้ว ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับรายชื่อบุคคลในหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีดังกล่าวมาก่อนจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับดังกล่าว และสิทธิต่างๆ ให้ นายอาทิตย์ฯ ผู้ถูกจับกุมหรือผู้ต้องหาทราบและเข้าใจดีแล้วจึงได้ทำการจับกุมตัวนำตัวส่งพงส.สน.พหลโยธิน ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหาได้นำบัญชีของตนให้แฟนเก่านำไปใช้ โดยตนไม่ได้รับเงินจากการเปิดบัญชีดังกล่าวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

Leave a Comment