กลายเป็นกรณีที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากในสังคมโซเชียล เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวของเด็กชาย อายุ 12 ปี ได้หนีไปนอนที่โรงอาหารของโรงเรียนบ้านโนนจำปา ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนร้าง โดยมีมุ้งหลังเล็กๆ และนอนกับพื้น พร้อมกับมีภาพถ่ายของแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ข้างที่นอน
ส่วนสาเหตุที่ต้องไปนอนที่โรงเรียนร้าง ทราบว่า ถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย ส่วนปู่และย่าก็รักหลานไม่เท่ากัน จึงหนีออกมาดังกล่าว ชาวบ้านได้พาเด็กชายไปฝากไว้กับพระมหาวัฒนา จิตตสาโร เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนจำปา ให้ที่นอนเป็นการชั่วคราว
ต่อมา เจ้าหน้าที่จาก พมจ.อุดรธานี เดินทางมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเด็กชายที่โรงเรียนปะโค ต.ปะโค อ.กุมภวาปี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เด็กชายย้ายมาเรียนชั้น ป.6 เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่กี่วัน พบกับ ผอ.โรงเรียน พร้อมคณะครู จากการสอบถามทราบว่า เด็กชายคนดังกล่าว มีปัญหาครอบครัว ถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายประจำ ส่วนแม่เสียชีวิตไปแล้ว
ด้านเด็กชาย บอกว่า ตนไปนอนที่โรงเรียนร้างได้ 2 สัปดาห์ ไปนอนที่นั่นไม่กลัวผี ไม่กลัวอะไร ตนมีชื่อเป็นนักเรียนคนสุดท้ายที่นั่น แต่โรงเรียนยุบไปก่อน สาเหตุที่ไปนอนเพราะถูกพ่อทำร้าย พ่อป่วยเป็นไตวายแล้วให้ตนนวดทั้งวันทั้งคืน ก่อนที่ตนจะมานอนที่โรงเรียนร้าง ตนเคยนอนที่ศาลากลางหมู่บ้าน แต่ชาวบ้านไม่สบายใจ กลัวตนไปขโมยของ ตนเลยเปลี่ยนมานอนที่โรงเรียนร้างแทน ส่วนที่ตนนำภาพถ่ายแม่มานอนข้างๆ เพราะคิดถึงแม่ แม่จากไปแล้ว
ส่วนชาวบ้าน กล่าวว่า สงสารเด็กชาย เพราะเห็นพ่อเขาทำร้ายบ่อยมาก บางครั้งเห็นใช้ไม้ท่อนใหญ่ฟาดที่กลางหลัง พ่อเขาป่วยเป็นโรคไต มีบางวันที่ให้ลูกชายนวดทั้งวันทั้งคืน อีกอย่างเด็กชายมีพี่ชายอีกคน แต่ดูเหมือนปู่ย่าและพ่อรักลูกไม่เท่ากัน ที่ผ่านมา ตนเองก็ให้เงินเด็กชายไปโรงเรียนวันละ 20 บาท บางวันไม่มีก็ไม่ได้ให้ เพราะเห็นแล้วสงสารจับใจจริงๆ แต่วันนี้มีเจ้าหน้าที่ พมจ.มาช่วยและรับไปดูแล ตนเองก็ดีใจแม้ไม่ใช่หลานของตนเองก็ตาม
