วิศวกรโร่พบตำรวจ หลังมีชื่อโผล่ ควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง.ที่พังถล่ม เพิ่งรู้ถูกปลอมลายเซ็น เผยปัจจุบันไม่ได้ทำอาชีพนี้แล้ว
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 เม.ย.68 นายสมเกียรติ ชูแสงสุข อายุ 66 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สัจพงษ์ ล้านพุฒ รอง สว.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง เพื่อลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการฯก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ ภายหลังจากที่มีข่าวว่าเป็นวิศวกรที่ลงชื่อควบคุมงานในโครงการสร้างอาคาร สตง.ที่พังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยหลังจากที่ลงบันทึกประจำวันแล้วได้เดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ มีตำแหน่งเป็นรองประธานคลินิกช่าง ภายใต้สภาวิศวกร และวุฒิสมาชิก สาขาวิศกรรมสิ่งแวดล้อม มีชื่อปรากฏเป็นผู้ควบคุมงาน (กิจการร่วมค้า PKW) ระบุในเอกสารแบบแปลนว่า “นายสมชาย ทรัพย์เย็น ผู้จัดการโครงการ ลงนามให้ปรับแก้ Core Lift ตามแบบขยายที่ผู้ออกแบบได้ปรับแก้ และมีแบบแปลนที่ลงชื่อ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข เป็นผู้ควบคุมงาน ของกิจการร่วมการค้า PWK”
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในแบบดังกล่าวระบุว่าตนเป็นผู้ควบคุมงาน แต่ปัจจุบันตนไม่ได้ทำอาชีพควบคุมงาน แต่ตนทำเกี่ยวกับการตรวจสอบ ซึ่งการควบคุมงานต้องอยู่เป็นประจำ การที่ควบคุมงานถ้าเซ็นไปแล้วไม่อยู่ดูงานจริง จะเป็นการผิดจรรยาบรรณ อาจถูกให้ออกจากราชการ
กรณีที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ควบคุมงานของบริษัท PKW นั้น ตนไม่แน่ใจ และจำไม่ได้ว่า อาจจะเอาชื่อตนไปสมัยประมูลโครงการแรกๆ แต่โครงการ สตง.นี้ ตั้งแต่สร้างมา ตนไม่เคยเข้าไปและไม่รู้ด้วยว่ามีชื่อตน แล้วมีการปลอมลายเซ็นตนด้วย เพราะลายเซ็นของตนไม่ตรงกับที่อยู่ในแบบ แต่อาจจะเคยร่วมงานกับ บ.PKW ต้องไปดู ผ่านมา 20 กว่าปีที่แล้ว อาจจะมีส่งมาให้เซ็นบ้าง
แต่ทุกอย่างต้องผ่านสภาวิศวกรออกหนังสือรับรอง หากทำอาชีพที่เกี่ยวกับวิศวกรรม ต้องไปขออนุญาตกับสภาวิศวกร รวมถึงหากเป็นผู้ควบคุมงาน ก็ต้องใช้ใบรับรองจากสภาวิศวกรด้วย หลังจากที่มีคนส่งมาให้ตนดูก็รู้สึกตกใจว่าได้ไปเซ็นให้เขาหรือเปล่า แต่เมื่อตรวจสอบหนังสือจากสภาวิศวกรตนไม่มีหนังสือรับรองดังกล่าวด้วย แต่ข้อมูลดังกล่าวทางสภาวิศวกรสามารถลบออกได้ แต่จะมีการเก็บข้อมูลสำรองไว้ แต่ดูแล้วไม่มีโครงการนี้
เมื่อถามว่า เลิกทำตำแหน่งวิศวกรมานานแล้วหรือไม่ นายสมเกียรติ ตอบว่า 20 กว่าปีตั้งแต่ทำอาชีพวิศวกร มี 3 ระดับ ภาคี วิสามัญ และวุฒิ แต่ 20 กว่าปีก่อนตนได้ขั้นวุฒิ ก็เลิกควบคุมงาน เพราะกลัวผิดจรรยาบรรณ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถเช็กกับทางสภาวิศกรได้ทั้งหมด
ขณะที่ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางผู้เสียหายต้องการลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่ต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใด หากต้องการดำเนินคดีกับใครก็ต้องเรียกตัวมาสอบสวนและจะได้ประสานงานกับ สน.บางซื่อ พื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการต่อไป