‘ชัชชาติ’ ตั้งโต๊ะแถลงภารกิจค้นหา USAR ลั่นคืนนี้เจาะโพรงได้แน่ โซนบี จุดพบแสงมือถือ ใต้ซากตึก สตง.ถล่ม

‘ชัชชาติ’ ตั้งโต๊ะแถลงภารกิจค้นหา USAR ลั่นคืนนี้เจาะโพรงได้แน่ โซนบี จุดพบแสงมือถือ ใต้ซากตึก สตง.ถล่ม เผยอุปสรรคทีมกู้ภัย

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 11 เม.ย.68 ที่กองอำนวยการร่วม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายกิตติพล กราซุย อาสามูลนิธิเพชรเกษมจังหวัดพังงา และ นายรณรงค์ ยลไชย เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR, นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ และคณะแถลงความคืบหน้าผลการปฏิบัติการรื้อถอน และค้นหาผู้สูญหายใต้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่ม

ซึ่งถือว่าเข้าสู่วันที่ 14 ของการปฏิบัติงานแล้ว โดย นายชัชชาติ เปิดเผยว่า ตอนนี้มีความสับสนเรื่องที่พบว่ามีผู้รอดชีวิต เพราะเรายังไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อคืนที่ผ่านมา เราใช้เครื่องมือหนักจนถึงช่วงเช้ามืดช่วง 04.00 – 05.00 น. ที่เราเอาทีมจากหลายหน่วยงานมาสำรวจจุดต่างๆ

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ช่วง 06.00 น.ที่ผ่านมา ได้มอบหมายภารกิจให้จัดกำลังค้นหาในพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณโซนบี โดยมีหลายหน่วยงานเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ และมอบหมายให้แต่ละทีมสังเกต ค้นหาในจุดที่น่าสนใจ เนื่องจากทีมอาสาทำการค้นหา โดยแบ่งออกเป็น 2 จุดคือ จุดที่ทีมกู้ภัยพบว่ามีสัญญาณบางอย่างออกมาในพื้นที่ B3d บริเวณโซน B และอีกจุดคือ พื้นที่ C1c บริเวณโซน C ซึ่งพบร่างผู้สูญหายแล้ว อยู่ระหว่างการนำร่างออกมาส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

ด้าน นายรณรงค์ เปิดเผยว่า เราได้รับมอบหมายให้เข้าไปค้นหาในจุดที่ B ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ผสมเข้าค้นหา ซึ่งจุดที่เป็นข่าว และน่าสนใจ โดยเจ้าหน้าที่ 2 คนได้เข้าไปในจุดดังกล่าว และรายงานกลับมาว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์ซัมซุง ตนจึงได้ร่วมลงไปสำรวจพบว่ามีโพรงที่สามารถมองลอดเข้าไปได้ จึงได้ร้องขอกล้องงูสอดเข้าไปจุดที่เป็นโพรง แล้วปรากฏจุดสังเกตเป็นแสงขึ้นมา จึงสั่งให้หยุด และแพนกล้องดู ก็เห็นแสงที่เห็นเกิดจากวัตถุสี่เหลี่ยม จึงคิดว่าเป็นวัตถุคล้ายโทรศัพท์ เราจึงให้ส่งเสียงตะโกนไปจุดที่คิดว่าจะมีผู้รอดชีวิตว่า ถ้าได้ยินเสียงให้เคาะ 3 ครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบ และนิ่งไม่มีการขยับ

นายรณรงค์ กล่าวต่อว่า เราจึงขอให้ปิดเปิดแสงที่มีบนวัตถุคล้ายโทรศัพท์ ซึ่งแสงก็ดับไปตามจังหวะ จึงคาดว่าเป็นผู้ที่ติดอยู่ในเบื้องต้น เราจึงมาวิเคราะห์ข้อมูล และพบวัตถุทรงกลมสีดำที่คาดว่าน่าจะเป็นศีรษะมนุษย์ และเราก็จะไปวิเคราะห์ต่อว่าถ้ามีความน่าเชื่อถือ เราก็จะดำเนินการ หลังจากนั้นเราพยายามเจาะเข้าไปดำเนินการต่อเนื่อง และเราคาดหวังว่าจะพบผู้สูญหาย และจะได้ทราบว่าเป็นสัญณาณชีพหรือไม่ ถ้ารอดชีวิต เราก็เตรียมทีมแพทย์สแตนด์บายไว้ ซึ่งจนถึงตอนนี้จากการค้นหาก็ยังไม่พบผู้รอดชีวิต

อีกทั้ง จุดดังกล่าวเป็นจุดเดียวกันกับที่ทีมกู้ภัยนานาชาติพยายามจะเจาะเข้าไป แต่ขณะนั้นไม่สามารถเจาะลงไปได้ ซึ่งเราคาดว่าภายในเที่ยงคืนของวันนี้จะสามารถเจาะโพรงเข้าไปได้ เพราะอุปสรรคหลักที่ทำให้ไม่สามารถเข้าไปได้ เราจึงอัดอากาศเข้าไป และฉีดน้ำเข้าไป เพราะไม่สามารถส่งน้ำที่เป็นขวดเข้าไปได้ เพราะจุดดังกล่าวมีอุปสรรค คือพื้นที่มีความลาดชันเป็นอย่างมาก ลุ่ม และเอียง รวมถึงมีเหล็กขนาดใหญ่

ส่วนพื้นที่ในการค้นหาอีกจุดคือ เราพบร่างผู้สูญหายที่โซน C ในพื้นที่ C1c จำนวน 1 ร่าง ซึ่งอยู่ระหว่างการนำร่างออกมา ก่อนส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงอุปสรรคในการปฏิบัติงานของทีมกู้ภัย โดยมีการเปิดเผยว่า เครนยักษ์ไฮดรอลิกแตก อะไหล่ไม่เหมือนคนอื่น จึงต้องนำชิ้นส่วนมาเปลี่ยน ซึ่งตอนนี้ใช้ได้แล้ว ดังนั้นนี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายต่างๆ ที่ทีมกู้ภัยต้องเผชิญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขณะนี้ ทีมกู้ภัยยังคงมุ่งมั่น และระดมสรรพกำลังเพื่อเข้าถึงจุด B อย่างระมัดระวัง เพื่อยืนยันสัญญาณที่พบ และให้ความช่วยเหลือผู้ที่อาจติดอยู่ภายใน

ขอบคุณภาพจาก กรุงเทพมหานคร

Leave a Comment