‘บิ๊กโจ๊ก’ ส่งตัวแทน ยื่นอุทธรณ์โทษไล่ออก ขอความเป็นธรรม คดีพัวพันเว็บพนัน
วันที่ 11 เม.ย.68 มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกคณะกรรมการกลั่นกรองโทษพิจารณาว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง จากกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ
ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผบ.ตร. ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 โดยเจ้าตัวในฐานะผู้ถูกลงโทษ มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง
สำหรับขั้นตอนพิจารณาอุทธรณ์ของ ก.พ.ค.ตร. มีดังนี้
1.การรับเรื่องอุทธรณ์ หากยื่นคำร้องภายใน 30 วัน และเอกสารครบถ้วน จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา หรือ หากมีข้อบกพร่องในคำร้อง ก.พ.ค.ตร. จะมีหนังสือแจ้งให้แก้ไขภายในเวลาที่กำหนด
2.การไต่สวนและพิจารณา คณะกรรมการอาจเรียกพยานเอกสารหรือพยานบุคคลเพิ่มเติม และเปิดโอกาสให้ทั้งผู้ร้องและต้นสังกัดส่งเอกสารหรือคำชี้แจงเพิ่มเติมได้
3.การมีมติของ ก.พ.ค.ตร. พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ก่อนเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)
4.การวินิจฉัยของ ก.ตร. โดย ก.ตร. เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งอาจยืนยัน แก้ไข หรือยกเลิกคำสั่งเดิม มติของ ก.ตร. ถือเป็นที่สุดในทางปกครอง
ทั้งนี้ ตามระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยการอุทธรณ์และร้องทุกข์ พ.ศ. 2552 ข้อ 24 วรรคสอง ระบุว่า ในกรณีมีเหตุจำเป็น ก.พ.ค.ตร. อาจขยายเวลาพิจารณาได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วัน และต้องแจ้งให้ผู้ร้องทราบเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้ง
สำหรับคดีนี้ จึงอยู่ในกระบวนการอุทธรณ์และการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. ซึ่งจะมีผลต่อการชี้ขาดชะตาทางราชการของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ อย่างเป็นทางการในขั้นตอนต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ คนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ, ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร., ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. ได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้วกับ ก.พ.ค.ตร