ถึงไทยแล้ว! ดีเอสไอ เข้ารวบตัว โบรกเกอร์สาว แก๊งหมอบุญ หลังถูกจับที่จีน หลบหนีคดีร่วมกันฉ้อโกง เสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท
วันที่ 7 เม.ย. 2568 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เข้าจับกุม น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป โบรกเกอร์สาว เครือข่ายหมอบุญ วนาสินธ์ คดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท
หลังถูกจับกุมได้ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะหลบหนีคดี ก่อนถูกควบคุมตัวกลับมายังประเทศไทยในวันที่ 7 เม.ย.68 โดยสายการบินไชน่า เซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ361 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 22.00 น. ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ บช.น. และ บช.ก. รับคำร้องทุกข์ จากผู้เสียหายจำนวนมาก ให้ดำเนินคดีกับ นายแพทย์บุญ วนาสิน กับพวก ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๕๓๔ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 14,264,048,033 ล้านบาท
ตร. มีคำสั่งที่ 581/2567 ลง 27 พ.ย.67 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน รับผิดชอบสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว
คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 16 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 16 ราย ประกอบด้วย
1) นายบุญ วนาสิน อายุ 86 ปี
2) น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี
3) น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี
4) นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี
5) น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 53 ปี
6) นางอัจจิมา พานิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี
7) นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี
8) นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี
9) นาย ธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี
10) น.ส.ณวรา กุญชร ณ อยุธยา หรือ ณวรา วนาสิน อายุ 53 ปี
11) น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป อายุ 39 ปี
12) น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ อายุ 39 ปี
13) น.ส.มาสฤดี คณาพิทักษ์พงศ์ อายุ 70 ปี
14) นายเนติวรรธน์ สุวรรณกูฎ อายุ 30 ปี
15) น.ส.นัญญากรณ์ ธรรมา อายุ 46 ปี
16) น.ส.ชัญญ์ญาณ์ พุฒิพงศ์ชญาห์ อายุ 53 ปี
ต่อมาได้ติดตามจับกุมตัว ผู้ต้องหาได้ 13 ราย ส่วนอีก 3 ราย หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ประกอบด้วย
1) นายบุญ วนาสิน
2) น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป
3) น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ
ตท. ได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งต่อมาได้มีประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เรียบร้อยแล้ว
หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ รายงานการรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีที่มีลักษณะการกระทำความผิดอันเป็นคดีพิเศษไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามหนังสือที่ ตช.0001 (ปป 1)/415 ลง 12 ธ.ค.67 ต่อมา กรมสอบสวนคดีพิเศษมีหนังสือแจ้งว่าได้อนุมัติ ให้สอบสวนคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 ลง 26 ธ.ค.67 และให้ส่งมอบสำนวน ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ ยธ 0825/16 ลง 3 ม.ค.68 เรื่องแจ้งการอนุมัติให้สอบสวนเป็นคดีพิเศษและให้ส่งมอบสำนวนการสอบสวน
นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 35/2568 ลง 27 ม.ค.68 เรื่อง ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานอื่นมาปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย ตร. ได้ส่งรายชื่อข้าราชการตำรวจ จำนวน 29 ราย เป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว มีความเห็นควร “สั่งฟ้อง” ผู้ต้องหาทั้ง 16 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ตามหนังสือที่ ยธ 0824/0088 ลง 27 ม.ค.68
ในส่วนผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายบุญ วนาสิน , น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป , น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ ที่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./ หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.เดโช โสสุวรรณากุล รอง ผบก.ตม.3 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ ตามบัญชีแนบท้ายคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 35/2568 ลง 27 ม.ค.68 เป็นชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีออกนอกประเทศ
ซึ่งกรณีผู้ต้องหาหลบหนี ชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ได้หลบหนีไปยังนครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้ประสานไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security) เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ซึ่งตำรวจนครกวางโจวได้รายงานเมื่อวันที่ 31 มี.ค.68 ว่าสามารถควบคุมตัว น.ส.ฐิติพรฯ ได้แล้ว และจะควบคุมตัว น.ส.ฐิติพรฯ กลับมายังประเทศไทยในวันที่ 7 เม.ย.68 โดยสายการบินไชน่า เซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ361 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 22.00 น. เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จะได้ทำการจับกุมตัว และส่งตัวผู้ต้องหาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการต่อไป