ล่อซื้อ จับแม่เล้าสองพี่น้อง พาเหยื่อ ด.ญ.วัย 13 ปี ค้ากาม หักหัวคิวย่านสุรวงศ์ เปิดปากสารภาพ โดนแจ้งข้อหา ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 1 เม.ย.2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6, พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก สั่งการให้ พ.ต.ต.อังกูร ตู้วัฒนะวาณิช สว.(สอบสวน) สน.บางรัก หัวหน้าชุดเดินเท้า และ พ.ต.ท.รัชดา ผู้ภักดี สวป.สน.บางรัก พร้อมชุดสายตรวจสน.บางรัก
เข้าช่วยเหลือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พร้อมจับกุม น.ส.วัลภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี, น.ส.วนิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี และ นายพรเทพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี โดยจับกุมได้บริเวณร้านแห่งหนึ่ง ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมดังกล่าวได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้เป็นธุระจัดหา โดยลักลอบจัดหาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาให้บริการค้าประเวณี ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ฯ สายลับสามารถติดต่อล่อซื้อบริการได้ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กได้ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อวางแผนการจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางแผนกับสายลับ ทำการล่อซื้อบริการทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี โดยตกลงซื้อบริการค้าประเวณีเด็กต่ำกว่า 18 ปี ในราคาคนละ 5,000 บาท และอายุเกิน 18 ปี ในราคาคนละ 3,500 บาท
โดยให้ชำระค่าบริการทั้งหมดผ่าน น.ส.วัลภา โดยค่าเป็นธุระจัดหานั้นเป็นเงินคนละ 300 บาท ค่าตัวเด็ก น.ส.วัลภา จะเป็นผู้จัดการแบ่งให้เด็กเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเพื่อบันทึกเลขธนบัตรสำหรับใช้ในการล่อซื้อตามประจำวันลำดับที่ 12 ลงวันที่ 31 มี.ค.68 เวลา 18.54 น.ของ สน.บางรัก เป็นจำนวนเงิน 14,000 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสังเกตเห็นว่า น.ส.วัลภา และ น.ส.วนิดาเป็นพี่น้องกัน มาถึงบริเวณจุดนัดที่ร้านอาหาร น.ส.วัลภา และน.ส.วนิดา ได้พาด.ญ.เอ และหญิงสาวอีก 1 คน ลงจากรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร และเดินมาหาสายลับที่ร้านอาหาร
สายลับได้จ่ายเงินค่าบริการและค่าธุระจัดหา และค่าน้ำมันส่วนที่เหลือทั้งหมดให้กับน.ส.วัลภา จากนั้นได้นั่งทานข้าวและพูดคุยกันสักพัก ต่อมาเวลาประมาณ 20.20 น. สายลับได้ทำการพาเด็กที่ขายประเวณีทั้งสองคนเดินไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยเปิดห้องพักเลขที่ 206 และ ห้อง 207 โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสี่พระยา เพื่อให้มาล่อซื้อบริการ และร่วมประเวณี
โดยสายลับได้พาด.ญ.เอ เข้าไปที่ห้องหมายเลข 207 และหญิงสาวอีก 1 คน เข้าไปที่ห้องหมายเลข 206 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ซุ่มรอสัญญาณจากสายลับอยู่ภายนอกห้องบริเวณใกล้เคียงกับห้อง 206 และ ห้อง 207 ของโรงแรมดังกล่าว
ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. เมื่อสายลับเข้าทำการล่อซื้อบริการ สายลับได้ให้เหยื่อทำการเปลี่ยนชุดเตรียมตัวให้บริการทางเพศแล้ว จึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบว่าพร้อมให้เข้าทำการจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือเหยื่อคือ ด.ญ.เอ ซึ่งอยู่ที่ห้องหมายเลข 207 และ หญิงสาวอีก 1 คน ซึ่งอยู่ที่ห้องหมายเลข 206 ของโรงแรมโดยทั้งสองคนอยู่ในลักษณะนุ่งผ้าเช็ดตัว และได้ทำการฉีกถุงยางพร้อมให้บริการทางเพศ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการจับกุมผู้ถูกจับที่ร้านอาหาร พบ น.ส.วัลภาและน.ส.วนิดา อยู่บริเวณที่ร้าน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำการขอตรวจค้น โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์จนเป็นที่พอใจของผู้ถูกจับทั้ง 2 แล้ว
ผลการตรวจค้นพบธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 10 ใบ รวมเป็นเงิน 10,000 บาท ซึ่งธนบัตรที่ตรวจพบเป็นธนบัตรที่มีเลขกำกับตรงกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเอาไว้เพื่อทำการล่อซื้อ อยู่ภายในกระเป๋าเงินของผู้ถูกจับที่ 1
เมื่อมาถึง สน.บางรัก แล้ว ได้ตรวจค้นตัวอย่างละเอียดอีกครั้ง พบธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ รวมเป็นเงิน 1,000 บาทธนบัตรที่ตรวจพบเป็นธนบัตรที่มีเลขกำกับตรงกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเอาไว้เพื่อทำการล่อซื้อ อยู่ภายในกระเป๋ากระโปรงด้านหน้าฝั่งขวาที่น.ส.วนิดาสวมใส่อยู่
โดยผู้ถูกจับทั้ง 2 ราย ยอมรับว่าเป็นคนเป็นธุระจัดหาเด็กมาให้บริการค้าประเวณี ซึ่งเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยการได้เงินส่วนแบ่งเป็นธุระจัดหาจริง พร้อมทั้งทำการจับกุมตัวนายพรเทพ ที่บริเวณริมถนนสุรวงศ์ฯ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว พาน.ส.วัลภาและน.ส.วนิดาพร้อมกับเหยื่อมาให้บริการทางเพศ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ผู้ถูกจับทั้ง 3 รายทราบว่าต้องถูกจับ แจ้งข้อกล่าวหา
ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากบุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น รับตัวบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไป หรือสนับสนุนในการกระทำความผิด ในการเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจาร
จากการสอบสวน น.ส.วัลภาและน.ส.วนิดา ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ติดต่อและได้รับผลประโยชน์จริง คิดค่าตัวเด็ก 5,000 บาท ค่าจัดหา 300 บาท แต่บอกเด็กค่าตัว 4,500 บาท หักหัวคิว 400 บาท สรุปเด็กเหลือถึงตัว 4,100 บาท
ส่วน นายพรเทพ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนขับรถพาน.ส.วัลภาและน.ส.วนิดาพร้อมเหยื่อมาให้บริการทางเพศจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และ เหยื่อค้ามนุษย์ ไปยัง สน.บางรัก เพื่อทำเอกสารบันทึกจับกุมและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป