ทนายอ๋อง ยัน ดิว ไม่มีหมายจับ ไม่ต้องห่วงกลับไทยมาเคลียร์กันได้ ยัน ดำเนินธุรกิจตามปกติ ใบเซอร์ไม่สามารถการันตีได้ว่า สินค้าเป็นของใคร
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2568 ที่ สน.ปทุมวัน ภายหลังจาก นายวิฑูรย์ เก่งงาน หรือ ทนายอ๋อง และ น.ส.ณัฐจุฑา ปุณณธนาวัฒน์ ตัวแทนบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือ ดิว ข้อหาฉ้อโกง เอาสร้อยของผู้อื่นมาขายฝากกับบริษัท โดยทุจริตหลอกลวงว่าเป็นของตัวเอง ทำให้ได้ไปซึ่งสินเชื่อจากบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด นั้น
ทนายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถาม 2 ประเด็นหลัก คือ กระบวนการรับของและขั้นตอนการทำสัญญา ของบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติมในวันถัดไป ยืนยัน ดิว อริสรา สามารถเดินทางกลับไทยได้ ไม่มีหมายจับและไม่มีการจับกุมแน่นอน รวมถึงชี้แจง ทางช็อป bvlgari ใช้กฎหมายตามยุโรปไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสินค้านี้แท้จริงแล้วเป็นของใครด้านตัวแทนบริษัทแบรนด์เนมมันนี่เผยถ้าคุณดิวติดต่อมาสามารถคุยกัทางทนายได้เลย
ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า การพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท กระบวนการในการรับฝากของ การตรวจสอบ ซึ่งทางเราได้อธิบายว่า สามารถตรวจสอบได้แค่ว่าเป็นของจริงหรือของปลอมเท่านั้นเอง รวมถึงมีหักค่าบริการฝากตู้เซฟอะไรต่างๆ โดยได้นัดให้ปากคำเพิ่มเติมในวันต่อไป
“ในตอนนี้คุณดิวจึงสามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยได้ตลอด ยืนยันว่าไม่มีหมายจับและไม่มีการจับกุมแน่นอน อีกทั้งคดีของคุณดิวถือเป็นคดีที่ไม่ซับซ้อน ถ้าเทียบกับคดีก่อนหน้าที่ตนทำ(ดิไอคอน) ตามที่ทุกคนทราบกัน เคสนั้นซับซ้อนกว่าเยอะ”
ด้าน น.ส.ณัฐจุฑา ตัวแทนบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจะยังดำเนินกิจการตามปกติ ประเมินสิ่งของตามสภาพที่ลูกค้านำมา ส่วนใบเซอร์นั้น ไม่ได้บอกความเป็นเจ้าของอยู่แล้ว เพราะสินค้าบางชิ้นซื้อต่อๆ กันมา ถึงมีใบเซอร์ ใบเสร็จ ที่มีชื่อ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเจ้าของ ในกรณีถึงซื้อมือหนึ่งมาออกช็อปมาแล้วมาฝากกับทางเรา การที่เราจะไปขอเช็คกับทางช็อป bvlgari หรือช็อปอื่นๆมันไม่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้วเขาก็จะมีเรื่องของกฎหมายของเขา
“bvlgari เป็นบริษัทที่ตั้งในยุโรป ในประเทศไทยนั้นจะมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เรียกว่า PDPA แต่ของทางยุโรปจะเรียกว่ากฎหมาย General Data Protection Regulation หรือ GDPR ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาจากสหภาพยุโรป และทางประเทศต่างๆก็ใช้หลักตรงนี้มาออกเป็นกฎหมายเฉพาะ เป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทางฝั่งยุโรป ซึ่งจะมากกว่าของไทย ถ้าไปขออาจโดนด่าด้วยซ้ำ”
ทนายวิฑูรย์ ยังกล่าวอีกว่า หากคุณดิวจะมาฟ้องคดีในคดีแพ่งหรือคดีอาญากับเรา ถ้าคดีแพ่งฟ้องได้อยู่แล้ว เขามีสิทธิ์ของเขา ถ้าเขาจะฟ้อง แต่ทางเราก็ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้นเลย อยากให้ตามคุณดิวกลับมาคุยกันและช่วยกันหาทางออกดีกว่า เพราะว่าตอนนี้ทางบริษัทเสียหายมากๆกับเรื่องนี้ เรื่องคดีฉ้อโกง ยักยอก รับของโจร โกงเจ้าหนี้ ทั้งหมดนี้นั้นเป็นความผิดต่อส่วนตัว สามารถยอมความได้