จับจริง! รอง ผบช.น. ย้ำกฎหมาย สูบบุหรี่ไฟฟ้า ปรับ 5,000 ครอบครองก็ผิด ชี้ตร.ต้องใช้ดุลพินิจพิสูจน์ให้ชัดเจนเข้าความผิดตามกฎหมายหรือไม่
จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์โพสต์ข้อความ “สูบบุหรี่ไฟฟ้า ปรับ 5,000 บาท เจอยืนสูบ เจอในกระเป๋า เจอถืออยู่ จับหมด ค่าปรับเริ่ม 5,000 บาท จับจริง เริ่มทุกจังหวัด มีรางวัล คนแจ้งจับ” แล้วแชร์ต่อกันนั้น
คืบหน้า วันที่ 21 มี.ค. 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผบช.น. ดูแลงานยาเสพติด เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวมีข้อกฎหมายเกี่ยวกับความผิดบุหรี่ไฟฟ้าระบุชัดเจนว่า 1.กรณีเป็นผู้นำเข้ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม.244,245,247,253 และ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ โทษ จำคุก 10 ปี หรือ ปรับ 5 เท่า หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. กรณีผู้จำหน่ายมีความผิดตามคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3.กรณีผู้ครอบครองหรือผู้ใดซื้อ รับไว้ บุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร ม.246 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,00 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
หากผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเสพ อาจมีความผิดข้อหาช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้อง ตาม ม. 246 วรรคหนึ่ง และหากมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ในเขตปลอดบุหรี่ ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน ม. 42 ตามพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 5,000 บาท
แต่การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น หากพบการกระทำความผิดซึ่งหน้าต้องมีการดำเนินการคดีจับกุมตามระเบียบข้อบังคับตามกฎหมายระบุไว้เท่านั้น ไม่ใช่จะเข้าทำการตรวจค้นโดยไม่มีเบาะแสหรือผู้แจ้งพบมีการกระทำความผิด หรือหากมีการแจ้งมาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อนที่จะดำเนินคดีได้ว่าพบการกระทำผิดเข้าข้อกฎหมายดังกล่าวจริงหรือไม่
ปัจจุบันมีนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการกรณีดังกล่าว ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการตำรวจโรงพัก ทั้งสายตรวจและชุดสืบสวน
รวมถึงแต่ละกองบังคับการให้ดำเนินการตรวจสอบ โดยเฉพาะแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษาในพื้นที่นครบาล จากการกวดขันจับกุมมีแนวโน้มลดลงค่อนข้างมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามกวาดล้างดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีดังกล่าวได้มีการติดตามตรวจสอบผู้นำเข้าหรือผู้นำจำหน่ายในพื้นที่เพิ่มเติม โดยเฉพาะมีการปรับเปลี่ยนนำยาเสพติดมาใส่ไว้ในบุหรี่ไฟฟ้า ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
นอกจากมีการจับกุมติดตามผู้กระทำความผิดที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ผู้เสพหันมาสนใจ ผู้ลักลอบจำหน่ายจึงดัดแปลงนำยาเสพติดมาใส่ไว้ในตัวบุหรี่ไฟฟ้าให้ผู้เสพใช้เสพยาเสพติดผ่านบุหรี่ไฟฟ้า
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลจับกุมยาเสพติด เริ่มพบเห็นบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนผสมของยาเสพติดเกี่ยวข้องด้วยอยู่หลายคดี ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเน้นติดตามจับกุมผู้ลักลอบสั่งนำเข้าหรือนำมาขาย เนื่องจากมีความผิดตามกฎหมาย ไม่ใช่ผู้เสพบุหรี่ไฟฟ้า เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีกับผู้ครอบครองเพื่อเสพมีความผิดหรือไม่นั้น ต้องใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าจับกุมว่าถูกต้องตามระเบียบและกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่