เปิดตัวมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ฟื้น สินเชื่อรถยนต์ ช่วยเอสเอ็มอีออกกระบะคันใหม่ เผยเงื่อนไข ราคาไม่เกินเท่าไหร่ เริ่มวันที่ 1 เม.ย.นี้
วันที่ 21 มี.ค.2568 ที่กระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เปิดตัวมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ซึ่งเป็นครั้งแรกของไทย ที่ใช้มาตรการการค้ำประกันสินเชื่อของรัฐบาลในการกระตุ้นตลาดรถยนต์
โดยเฉพาะเชิงพาณิชย์ที่ซบเซาให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ด้วยวงเงินค้ำประกันในระยะแรก 5,000 ล้านบาท โดยบสย.ช่วยค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในการขอสินเชื่อรถกระบะ เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ สูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อราย
จากปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะ เนื่องจากมีความกังวลในความเสี่ยงในการชำระหนี้ของเอสเอ็มอีและราคารถมือสองตกต่ำ เพื่อแก้ปัญหานี้โดยเร่งด่วน
กระทรวงการคลัง โดย บสย. จึงได้ออกมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เพื่อเป็นกลไกลดความเสี่ยงและเพื่อสร้างแรงจูงใจทำให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อ เพิ่มการอนุมัติสินเชื่อ ให้กับ เอสเอ็มอีเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์และช่วยให้ประชาชนได้ประกอบอาชีพได้ต่อไป
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” นั้น บสย. จะค้ำประกันและจ่ายส่วนต่างของภาระหนี้กับราคาขายทอดตลาดให้กับสถาบันการเงินตามเงื่อนไข โดยรัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ประชาชนใน 3 ปีแรก
ส่วนปีที่ 4-7 รัฐบาลจะช่วยออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมค้ำประกันเพียง 1.5% ต่อปี ค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด เปิดรับคำขอตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 ธันวาคม 2568 ซึ่งสอดรับกับช่วงเวลางานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ช่วงวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายนนี้ เป็นอย่างดี
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า สำหรับมาตรการนี้จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือและสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเอสเอ็มอี ที่ต้องการซื้อรถกระบะใหม่เพื่อประกอบอาชีพและสร้างรายได้
มาตรการนี้จะปลดปล่อยรถกระบะได้กว่า 6,250 คัน สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 5,000 ล้านบาท ลดความเสี่ยงและสร้างแรงจูงใจให้สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ และกระตุ้นอุตสาหกรรมรถกระบะ
และช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์ และซัพพลายเชนเช่น ผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ สามารถรักษาการจ้างงานไว้ได้จำนวนมาก ขณะเดียวกัน หากกรณีวงเงิน 5,000 ล้านบาทหมดลง คลังก็พร้อมจะเติมเม็ดเงินเพิ่มให้อีก 5,000 ล้านบาท สำหรับระยะถัดไป รวมแล้วมีการกันวงเงินให้โครงการกระบะพี่ มีคลังค้ำ 1 หมื่นล้านบาท
“ยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ เป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่ง ซึ่งไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาค ก่อให้เกิดการผลิตและการจ้างงานจำนวนมาก โดยในปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอยู่ในภาวะหดตัว ยอดขายในประเทศลดลงอย่างมาก
ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งในส่วนของผู้ผลิตยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และ ซัพพลายเชนอื่น ๆ กระทบการจ้างงานจำนวนมาก นอกจากนี้รถกระบะเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในภาคเกษตรและตามต่างจังหวัด เกษตรกร ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งสินค้า ค้าขาย” นายเผ่าภูมิ กล่าว