ทล.เปิดปฏิบัติการ แก๊งโจรกรรม-ฟอกขาวรถ เชิดรถเช่า ยื่นเปลี่ยนทะเบียนเป็นรถถูกกฎหมาย เงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้าน ตร.แนะวิธีสังเกต ถูกหลอกขายรถหรือไม่
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 20 มี.ค.68 พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.ทศพล กิตติลาภ สวญ.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ร่วมแถลงจับกุมแก๊งขโมยรถเช่า ปลอมแปลงเอกสารไปยื่นขอเปลี่ยนเลขทะเบียน ทำให้เป็นรถถูกกฎหมาย นำประกาศขายผ่านโซเชียลฯ
สามารถจับกุมนายธราเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี และน.ส.ภัทราดา อายุ 32 ปี หัวหน้าขบวนการ พร้อมสมุนอีก 6 ราย แบ่งหน้าที่คอยโจรกรรมรถ, ปลอมเอกสารรถ -โพสต์ขายรถทางสื่อออนไลน์, ทำหน้าที่รับ-ส่งรถ ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันยักยอก หรือ รับของโจร, ร่วมปลอมแปลงเอกสารราชการ, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร”
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า คนร้ายทำกันเป็นขบวนการใหญ่ มีผู้ร่วมก่อเหตุเป็นจำนวนมาก ตำรวจออกหมายจับไว้ 9 ราย ใช้เวลาสืบสวนเป็นระยะเวลา 2 เดือน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน ส่วนอีก 1 คนยังหลบหนี
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวต่อว่า คดีนี้เริ่มจากตำรวจทางหลวงมีการจับกุมป้ายทะเบียนปลอมอย่างเข้มงวด ทำให้คนร้ายต้องการฟอกขาวโดยเปลี่ยนแปลงป้ายทะเบียนจากรถที่ผิดกฎหมาย เพื่อทำให้กลายเป็นรถถูกกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 มีกลุ่มคนร้ายไปติดต่อขอเช่ารถจากบริษัทของ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ตั้งอยู่ที่จ.ฉะเชิงเทรา
เมื่อถึงกำหนดคืนรถ ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ สัญญาณจีพีเอสของรถก็ถูกตัดไป เชื่อว่ารถถูกขโมยไปอย่างแน่นอน จึงเข้าแจ้งความที่สภ.แสนภูดาษ เพื่อให้ติดตามคนร้าย
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 7 ม.ค.68 น.ส.เอ ผู้เสียหาย ตรวจสอบข้อมูลรถผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” จนพบว่ารถคันนี้ไปแจ้งเปลี่ยนทะเบียนรถ จากหมายเลขทะเบียน ฉะเชิงเทรา ไปเป็นทะเบียน นครปฐม ผู้เสียหายจึงประสานขอความช่วยเหลือมายังตำรวจทางหลวง เพื่อขอให้ช่วยติดตามรถกลับคืนมา จากการประสานกรมการขนส่งทางบก ทำให้ทราบว่าเอกสารทั้งหมดที่คนร้ายใช้ยื่นเพื่อขอเปลี่ยนเลขทะเบียนรถนั้นเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ตรวจพบว่ารถคันนี้กำลังวิ่งออกจากจ.นครปฐม มุ่งหน้าขึ้นทางภาคเหนือ ก่อนสกัดจับได้ที่ จ.ตาก พบนายบี (นามสมมติ) เป็นผู้ขับขี่ ยอมรับว่าตนเห็นประกาศขายรถคันนี้ทางโซเชียลมีเดีย มีเล่มคู่มือจดทะเบียนพร้อม เชื่อว่าเป็นรถถูกกฎหมาย จึงขอซื้อมาในราคา 3 แสนบาท ก่อนเดินทางไปรับรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในจ.สุพรรณบุรี และกำลังเดินทางกลับบ้านจนมารู้ความจริงเมื่อถูกจับ
จากการสืบสวนทราบว่าขบวนการฟอกขาวรถเช่ากลุ่มนี้ แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ได้แก่ กลุ่ม Master Mind ระดับสั่งการและเป็นนายทุน, ทำหน้าที่ขโมยรถเช่า, ทำหน้าที่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อยื่นขอจดทะเบียนและเล่มคู่มือจดทะเบียน, กลุ่มโพสต์ขายรถที่ฟอกขาวเรียบร้อยแล้ว และส่วนทำหน้าที่เป็นนักบิน ขับรถไปส่งลูกค้า
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวด้วยว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจกก.2 บก.ทล. ร่วมกับสภ.แสนภูดาษ นำหลักฐาน ไปยื่นขอหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 รายที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราก่อนเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ส่วนใหญ่รับสารภาพ ว่าในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาได้ฟอกขาวรถที่โจรกรรมมา เฉลี่ยเดือนละ 4 คัน พบเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท ก่อนนำตัวผู้ต้องหา ทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แสนภูดาษ เพื่อดำเนินคดี
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุมาแล้วประมาณ 1 ปี โดยใช้วิธีการเดียวกัน เชื่อว่ามีรถที่ถูกโจรกรรมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 คัน หลังจากนี้จะประสานกับกรมการขนส่งทางบก ให้คัดกรองรถที่มีความเสี่ยงออกมา เพื่อตรวจสอบทะเบียนและผู้ครอบครองเพื่อดำเนินการต่อไป
ก็อยากฝากไปถึงผู้ซื้อรถ จะสังเกตได้อย่างไรว่าจะถูกหลอกขายรถหรือไม่ ให้สังเกตจากเล่มทะเบียนที่ออกแทนเล่มสูญหาย ซึ่งรถประเภทนี้จะไม่มีเล่มทะเบียนจริง และขอให้ตรวจเช็คที่หน้า 18 เพราะรถที่ถูกโจรกรรมมาส่วนใหญ่จะไปขอจดทะเบียนย้ายจังหวัด
