เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร รอง ผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ท.ศิษฏ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ธรรมชาติ ดำรงจักร สว.กลุ่มงาน สสน.ปอท., พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป.,พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สว.ส.ทล.5 กก.4 บก.ทล., ว่าที่ พ.ต.ต.หญิงธีรศักดิ์ นามเขต สว.กก.3 บก.ป.,ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง วรรณภา พรมบัญชา สว.กก.3 บก.ป., พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2,3,4,สสน. บก.ป., บก.ปอท.และบก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหา 4 ราย อยู่ระหว่างจำคุกในคดีอื่น

1. MR.LI  (นายลี) สัญชาติจีน อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 13/2568  ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568

2. Ms.Aye  (นางเอ้) สัญชาติเมียนมา อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 14/2568  ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 ผู้ต้องหาที่ 1-2 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง

ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันสนับสนุนพนักงานเจ้าหน้าที่ปลอมบัตรประชาชน, ร่วมกันสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ร่วมกันสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่”

3. นายจิรภัทรฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 15/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568

4. นายสุริยะฯ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 16/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568

5. นายพีระศักดิ์ฯ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 17/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568

6. นายประวิตฯ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 18/2568 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2568 ผู้ต้องหาที่ 3-6 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่” ตรวจยึดของกลาง จำนวน 190 รายการ

1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 14 เล่ม

2. เงินสด จำนวน 8,500 หยวน

3. บัตร ATM จำนวน 5  ใบ

4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 14 เครื่อง

5. แท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง

6. คอมพิวเตอร์ จำนวน 9 เครื่อง

7. บัตรขาว จำนวน 2 ใบ

8. หนังสือเดินทาง/บัตรประชาชน/เอกสารที่เกี่ยวข้อง 14 รายการ

9. รถยนต์ จำนวน 2 คัน

10. วัตถุคล้ายทองคำ 5 รายการ และ เอกสารอื่นๆ จำนวน 125 รายการ

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ.2566 ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นชายชาวจีน เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.3 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีที่ผู้เสียหายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรีดทรัพย์ เรียกเงินเป็นจำนวน 5 ล้าน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี

ซึ่งมูลเหตุในคดีนี้ สืบเนื่องมาจากในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2565 ผู้เสียหายได้เข้าไปยัง           กลุ่มเฟซบุ๊กของคนจีน โดยพบเฟซบุ๊กประกาศแจ้งว่าสามารถจัดทำบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารอื่นๆ ของไทยให้กับคนจีนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยคิดค่าดำเนินการประมาณ 1 ล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายหลงเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำบัตรและเอกสารประจำตัวที่ถูกต้องตามกฎหมายจริง ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อเข้าไปพูดคุยและตกลงทำบัตรประชาชน จากนั้นจึงมีการนัดหมายให้ผู้เสียหายเดินทางไปทำบัตรประชาชนที่สำนักงานเทศบาลจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ต่อมาเมื่อถึงวันนัดหมาย ผู้เสียหายได้เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลดังกล่าว และได้พบนายลี พร้อมกับนางเอ้ (แฟนสาว) โดยนายลี ได้พาผู้เสียหายไปทำบัตรประชาชนที่สำนักงานเทศบาลดังกล่าว โดยมีขั้นตอนการถ่ายรูป และสแกนรอยนิ้วมือเหมือนกับการทำบัตรประชาชนทั่วไป แต่จะไม่มีการให้กรอกข้อมูลเอกสารใดๆ ซึ่งภายหลังจากที่ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว นายลีจึงได้นำบัตรประชาชนที่ปรากฎรูปหน้าผู้เสียหายมามอบให้กับผู้เสียหายพร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้านอีก 1 ฉบับ (ซึ่งข้อมูลตามบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านดังกล่าวปรากฎชื่อคนไทยคนเดียวกัน) หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงชำระค่าดำเนินการ โดยมอบเงินสด จำนวน 1.1 ล้านบาท ให้กับนายลี

ต่อมาในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2565 ผู้เสียหายได้ตกลงให้นายลี ช่วยทำหนังสือเดินทางให้กับผู้เสียหาย โดยนายลี ได้นัดหมายให้ผู้เสียหายมาทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อผู้เสียหายเดินทางมาถึงที่นัดหมาย ได้มีกลุ่มชายไม่ทราบชื่อพาผู้เสียหายไปนั่งรอที่ร้านกาแฟภายในกรมการกงสุล จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 นาย เข้ามาควบคุมตัวผู้เสียหาย และนำตัวผู้เสียหายไปที่ทำการแห่งหนึ่ง โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้ได้แจ้งกับผู้เสียหายให้ทราบว่าจะต้องถูกดำเนินคดีเนื่องจากปลอมเอกสาร ซึ่งหากผู้เสียหายไม่อยากถูกดำเนินคดี ให้ผู้เสียหายนำเงินมาจ่ายจำนวน 5 ล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายจึงได้ต่อรองราคาจนกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจตกลงให้จ่ายเงินจำนวน 2 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล USDT จำนวน 55,555 USDT (เปรียบเทียบเป็นเงินไทยจำนวน 2 ล้านบาท) เข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลตามหมายเลขที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไว้ ก่อนจะปล่อยตัวผู้เสียหายไป และหลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายกลุ่มดังกล่าว

ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการปราบปราบอาชญากรรมข้ามชาติ กรณีคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวงหรือ ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนของการกระทำความผิดที่เป็นเครือข่าย และขบวนการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวสัญชาติจีน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้มีการจัดตั้งคณะทำงานที่เป็นชุดสืบสวน สอบสวนเฉพาะกิจ เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวและนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากการสืบสวนของคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. พบว่าในส่วนของการหลอกลวงผู้เสียหายให้ไปทำบัตรประชาชนนั้น มีกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุหลายกลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มผู้ชักชวนและดำเนินการพาผู้เสียหายไปทำบัตรประชาชน โดยกลุ่มนี้มีนายลี และนางเอ้ เป็นผู้ร่วมขบวนการ, 2.กลุ่มจัดหาบัตรประชาชนที่จะนำมาสวมสิทธิให้กับผู้เสียหาย โดยจากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของบัตรประชาชนเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง และพบว่ามีการไปขอทำบัตรประชาชนใหม่หลังจากขายบัตรเพียงไม่กี่วัน จึงน่าเชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำในครั้งนี้ และ 3.เจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ทำบัตรประชาชน โดยเชื่อว่าน่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้ความช่วยเหลือในการกระทำผิดของขบวนการดังกล่าว

ในส่วนของกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจรีดเอาทรัพย์ผู้เสียหายนั้น พบว่ามีกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุหลายคน ดังนี้ 1.คนชี้เป้า มีหน้าที่ระบุตำแหน่งและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้เสียหาย, 2.กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รีดเอาทรัพย์ผู้เสียหาย และ 3.เส้นทางการเงินจากการประทุษร้าย พบมีการผ่องถ่ายกันหลายทอด และถอนเงินออกที่บริษัทนอมินี จากการสืบสวนน่าเชื่อว่าคนในขบวนการเป็นผู้ชี้เป้าให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและเข้าทำการรีดทรัพย์ผู้เสียหายอีกทอดนึง

และจากการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ยังพบข้อมูลประวัตินายลี โดยพบว่ามีหมายแดงติดตัว ในความผิดเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์ชาวจีน มูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทยมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท) โดยนายลี ได้ก่อเหตุที่ประเทศจีนในช่วงปี พ.ศ.2558-2562 ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2564 ซึ่งในระหว่างที่นายลี อาศัยอยู่ในประเทศไทย นายลี ได้มีการสวมบัตรหัวศูนย์ หรือบัตรขาว หรือบัตรบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ระบุชื่อเป็นนายจิน ไทยลื้อ เพื่อให้ตนเองมีสิทธิต่างๆ เทียบเท่ากับคนไทย จากนั้นจึงได้นำรูปแบบวิธีการที่ตนเองเคยสวมบัตรขาว มาใช้ในการเปิด เพจพาคนจีนไปทำเอกสาร และบัตรประจำตัวต่างๆ ในคดีนี้ นอกจากนี้ยังพบว่านายลี ได้มีการประกอบธุรกิจให้บริการต่อวีซ่า ที่ บริษัท อันเจีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ อีกด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลบริษัทฯ ดังกล่าว พบว่ามีการจดทะเบียนสถานที่จัดตั้งซ้ำกับบริษัทอื่นอีก 14 บริษัท โดยบริษัทเหล่านี้มีกลุ่มคนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นบริษัทโดยไม่ได้มีการลงทุนหุ้นจริง

ในส่วนของกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รีดเอาทรัพย์ผู้เสียหายนั้น มีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจนทราบว่า    เจ้าหน้าที่ตำรวจในกลุ่มดังกล่าวจำนวน 4 นาย ถูกจับกุมดำเนินคดีกรณีเรียกรับเงินสินบนจากชาวจีนจำนวน 10 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2566 ซึ่งรูปแบบพฤติการณ์ในการก่อเหตุคล้ายกับคดีของผู้เสียหายรายนี้ด้วยเช่นกัน

ในส่วนของกลุ่มจัดหาบัตรประชาชน พบว่ามีนายหน้าทำหน้าที่จัดหาบัตรประชาชนของคนไทยมาเพื่อใช้ในการสวมบัตร ซึ่งผู้ที่ขายบัตรประชาชนจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการหลอกลวงผู้เสียหายทำบัตรประชาชน และกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รีดเอาทรัพย์ผู้เสียหาย โดยศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวนทั้งสิ้น 6 หมายจับ

ซึ่งในวันที่ 5 มีนาคม 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้เปิดปฏิบัติการ “CIB Game on” รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน” โดยนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 70 นาย ลงพื้นที่ตรวจค้น 11 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ นครราชสีมา, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, เชียงใหม่, นนทบุรี, ชลบุรี และกรุงเทพฯ โดยเป็นการตรวจค้นจับกุมเป้าหมาย 26 เป้าหมาย (บุคคล 24 ราย และบริษัท 2 บริษัท) ซึ่งในส่วนของเป้าหมายที่เป็นตัวบุคคลทั้ง 24 เป้าหมาย แบ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 ราย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องเชิญตัวมาเพื่อซักถามปากคำจำนวน 18 ราย

ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือ นายลี และนางเอ้ พร้อมตรวจยึด ของกลางตามรายการดังกล่าวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 4 ราย ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ พนักงานสอบสวนจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.รัฐมนตรี  พันชูกลาง รอง ผกก.

เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน

เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน

เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน

เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน

เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ ล่าผู้ต้องหาหมายแดง พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน

Leave a Comment